ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในที่หลีกเร้น หลังจากการตรัสรู้แล้วใหม่ ๆ ได้เกิดปริวิตกขึ้นมาว่า "เราหลุดมาได้แล้วจากการกระทำทุกรกิริยานั้นหนอ; ดีนัก เราหลุดมาเสียได้แล้ว จากการกระทำทุกรกิริยาอันไม่ประกอบด้วยประโยชน์นั้นหนอ;ดีนัก เราหลุดพ้นแล้ว เป็นผู้ถึงทับซึ่งโพธิญาณหนอ" ดังนี้.
ลำดับนั้น มารผู้มีบาป ทราบความปริวิตกแห่งใจของพระผู้มีพระภาค ด้วยใจแห่งตนแล้วเข้าไปหาพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ได้กล่าวคุกคามด้วยคาถาว่า :-
"มาณพที่บำเพ็ญตบะ ย่อมไม่หลีกจากตบะที่ทำเขาให้บริสุทธิ์ ส่วนท่านเป็นผู้ไม่บริสุทธิ์ มาสำคัญตนว่าบริสุทธิ์ ทอดทิ้งเสียซึ่งหนทางอันบริสุทธิ์."
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค ทรงทราบว่า นี้เป็นมารผู้มีบาป ดังนี้แล้ว ได้กล่าวคุกคามมารผู้มีบาป ด้วยคาถาเหล่านี้ว่า :-
ตบะอย่างอื่นชนิดใดก็ตาม ทั้งหมดนั้น ไม่เป็นตบะนำมาซึ่งประโยชน์ เพราะเรารู้แล้วว่าไม่ประกอบด้วยประโยชน์ เหมือนถ่อหรือแจวที่จะใช้ถ่อหรือแจวเรือบนบกในป่า.
เราเจริญมรรค อันประกอบด้วยศีลสมาธิและปัญญา เพื่อการตรัสรู้ เราเป็นผู้ถึงแล้วซึ่งความบริสุทธิ์อย่างยิ่ง. มารเอ๋ย! เราต่างหาก เป็นผู้กวาดล้างท่านแล้ว, ดังนี้.
ลำดับนั้น มารผู้มีบาป รู้สึกว่า พระผู้มีพระภาครู้กำพืดเราเสียแล้ว พระสุคตรู้กำพืดเราเสียแล้ว มีทุกข์โทมนัส อันตรธานไปแล้วในที่นั่นนั้นเอง.
- บาลี สคา. สํ. 15/150/418. ตรัสแก่มาร.