ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
กุมาร! เราเป็นผู้นอนเป็นสุข. บรรดาคนเหล่าใด ที่นอนเป็นสุขในโลกนี้ เราเป็นผู้หนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้น.
"พระองค์ผู้เจริญ! ราตรีแห่งเหมันตฤดู เป็นราตรีอันหนาว เป็นที่ตกแห่งหิมะมีในระหว่าง 8 วัน05.15 พื้นแผ่นดินคมขรุขระเพราะรอยโคเหยียบ (ในฤดู แล้วแห้งในฤดูนี้).เครื่องลาดที่ทำด้วยใบไม้ก็บางๆ ใบไม้ก็โกร๋น, ผ้าที่ย้อมด้วยน้ำฝาด ก็เป็นของเย็น มิหนำลมเวรัมพา05.16 ก็พัดความหนาวมาด้วยดังนี้." ครั้นกล่าวดังนี้แล้ว อาฬวกะก็ทูลถามในทีว่า เมื่ออากาศกำลังร้ายกาจเช่นนี้ พระองค์จะทรงนอนเป็นสุขได้อย่างไร.
กุมาร! เราเป็นผู้นอนแล้วเป็นสุข บรรดาคนเหล่าใด ที่นอนแล้วเป็นสุขในโลกนี้ เราเป็นผู้หนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้น. กุมาร! เราจักย้อนถามท่านในเรื่องนี้ ท่านจงตอบโดยประการที่ควร. กุมาร! ท่านจักเข้าใจว่าอย่างไร :เรือนมียอด ของคหบดี หรือของบุตรคหบดี ที่ฉาบทาแล้วทั้งขึ้นและลง ไม่มีรูรั่วให้ลมผ่าน มีลิ่มสลักอันขัดแล้ว มีหน้าต่างอันปิดสนิทแล้ว ในเรือนนั้น มีเตียงบัลลังก์ ลาดด้วยผ้าขนสัตว์สีดำชนิดมีขนยาวสี่องคุลี ลาดด้วยเครื่องลาดขาวทำด้วยขนสัตว์ ลาดด้วยเครื่องลาดขนสัตว์มีดอกเป็นกลุ่มก้อน มีฟูกอันสูงค่าทำด้วยหนังชะมด มีเพดานวิจิตรยิ่ง มีหมอนข้างแดงทั้งสองข้าง, ในที่นั้น เขาจุดประทีปน้ำมันไว้ มีปชาบดีสี่คนคอยบำเรอน่าอิมเอิบใจ. ท่านจะเข้าใจว่าอย่างไร คือ เขาผู้นอนแล้วในที่นั้น จะนอนเป็นสุข หรือหาไม่?
"พระองค์ผู้เจริญ! เขาเป็นผู้นอนแล้วเป็นสุข เป็นผู้หนึ่งในบรรดาผู้นอนแล้วเป็นสุขในโลกนี้"
กุมาร! ความร้อนรึงอันเกิดจากราคะ ที่เป็นไปทางกายหรือทางจิตก็ตาม ชนิดที่เมื่อเขาถูกมันเผาแล้ว ย่อมนอนเป็นทุกข์นั้น จะพึงบังเกิดขึ้นแก่คหบดี หรือบุตรคหบดีคนนั้นบ้าง มิใช่หรือ?
"อย่างนั้น, พระองค์"
กุมาร! ก็เมื่อคหบดี หรือบุตรคหบดี ต้องเร่าร้อนนอนทุกข์เพราะความร้อนรึงอันเกิดจากราคะใดๆ, ราคะนั้น เราตถาคตละมันได้ขาด ถอดขึ้นได้กระทั่งรากเง่า ทำให้เป็นเหมือนตาลยอดด้วนไม่ให้มี ไม่ให้เกิดอีกต่อไป เพราะฉะนั้นเราจึงนอนแล้วเป็นสุข05.18
- บาลี ติก. อํ. 20/174/474. ตรัสแก่หัตถถะ อาฬวกะ ที่ป่าประดู่ลาย, ในที่นี้ตรัสอาลปนะ ว่ากุมาร.