ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุ ท.! เรายังมองไมเห็นธรรมชนิดอื่นแม้แต่สักอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้อริยอัฏฐังคิกมรรคอันยังไม่เกิดให้บังเกิดขึ้น, และที่เกิดขึ้นแล้ว ให้ถึงความเจริญเต็มที่, เหมือนอย่างศีลสมบัติ (ความถึงพร้อมด้วยศีล) นี้เลย. ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุสมบูรณืด้วยศีลแล้ว เธอต้องหวังข้อนี้ได้ คือว่า เธอจักอบรมอริยอัฏฐังคิกมรรคให้เกิดขึ้นได้ จักทำอริยอัฏฐังคิกมรรคให้มากขึ้นได้.
ภิกษุ ท.! ภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยศีลแล้ว ย่อมอบรมอริยอัฏฐังคิกมรรคให้เกิดขึ้นได้ ย่อมทำอริยอัฏฐังคิกมรรคให้มากขึ้นได้ เป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุ ท.!ในธรรมวินัยนี้ ยอ่มอบรมสัมมาธิฏฐิ ย่อมอบรมสัมมาสังกัปปะ ย่อมอบรมสัมมาวาจา ย่อมอบรมสัมมากัมมันตะ ย่อมอบรมสัมมาอาชีวะ ย่อมอบรมสัมมาวายามะ ย่อมอบรมสัมมาสติ และย่อมอบรมสัมมาสมาธิ, ชนิทดี่มีการนำออกซึ่ง ราคะ โทสะ โมหะ เสียได้ เป็นผลสุดท้าย. ภิกษุ ท.! ด้วยอาการอย่างนี้แล ภิกษุ ผู้ถึงพร้อมด้วยศีลแล้ว ย่อมอบรมอริยอัฏฐังคิกมรรคให้เกิดขึ้นได้ ย่อมทำอริยอัฏฐังคิกมรรคให้มากขึ้นได้.
- บาลี พระพุทธภาษิต มหาวาร. สํ. 19/46/176, ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายที่เชตวัน.