ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
อาการแห่งอนิจจัง โดยละเอียดPTC135
(เรื่องนี้ มีความประสงค์เพื่อขยายความเรื่องที่แล้วมาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! วิญญาณย่อมมีขึ้น เพราะอาศัยธรรม 2 อย่าง 2 อย่างอะไรเล่า ? 2 อย่างคือ, ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะอาศัยซึ่งจักษุด้วยซึ่งรูปทั้งหลายด้วย จักขุวิญญาณ จึงเกิดขึ้น.
จักษุ เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น ;
รูปทั้งหลายเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น : ธรรมทั้งสอง (จักษุ+รูป) อย่างนี้แล เป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปได้ โดยประการอื่น ;
จักษุวิญญาณ เป็นสิ่งไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น ;
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่งจักขุวิญญาณ, แม้เหตุอันนั้น แม้ปัจจัยอันนั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! จักขุวิญญาณเกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้ จักขุวิญญาณเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความประจวบพร้อม ความประชุมพร้อม ความมาพร้อมกัน แห่งธรรมทั้งหลาย (จักษุ+รูป+จักขุวิญญาณ) 3 อย่างเหล่านี้ อันใดแล ; ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันนี้เราเรียกว่า จักขุสัมผัส ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ จักขุสัมผัส ก็เป็นสิ่งไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น.
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่งจักขุสัมผัส, แม้เหตุอันนั้น แม้ปัจจัยอันนั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! จักขุสัมผัสเกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้ จักขุสัมผัสจักเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลที่ผัสสะกระทบแล้วย่อมรู้สึก (เวเทติ), ผัสสะกระทบแล้วย่อมคิด (เจเตติ),ผัสสะกระทบแล้วย่อมจำได้หมายรู้ (สญฺชานาติ) : แม้ธรรมทั้งหลาย (เวทนา, เจตนา, สัญญาPTC136) อย่างนี้เหล่านี้ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น ;
(ในกรณีแห่งโสตวิญญาณก็ดี, ฆานวิญญาณก็ดี, ชิวหาวิญญาณก็ดี, กายวิญญาณก็ดี, ก็มีนัยเดียวกัน).
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เพราะอาศัยซึ่งมโนด้วย ซึ่งธัมมารมณ์ทั้งหลายด้วย มโนวิญญาณ จึงเกิดขึ้น.
มโนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น ;
ธัมมารมณ์ทั้งหลายเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น : ธรรมทั้งสอง (มโน+ธัมมารมณ์) อย่างนี้แล เป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วยอาพาธด้วย ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น ;
มโนวิญญาณเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น ;
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่งมโนวิญญาณ, แม้เหตุอันนั้น แม้ปัจจัยอันนั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! มโนวิญญาณเกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยงดังนี้ มโนวิญญาณเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ความประจวบพร้อม ความประชุมพร้อม ความมาพร้อมกัน แห่งธรรมทั้งหลาย (มโน+ธัมมารมณ์+มโนวิญญาณ) 3 อย่างเหล่านี้อันใดแล ; ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! อันนี้เราเรียกกว่า มโนสัมผัส. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! แม้มโนสัมผัส ก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น.
เหตุอันใดก็ตาม ปัจจัยอันใดก็ตาม เพื่อความเกิดขึ้นแห่งมโนสัมผัส, แม้เหตุอันนั้น แม้ปัจจัยอันนั้น ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! มโนสัมผัสเกิดขึ้นแล้ว เพราะอาศัยปัจจัยที่ไม่เที่ยง ดังนี้ มโนสัมผัสจักเป็นของเที่ยงมาแต่ไหน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! บุคคลที่ผัสสะกระทบแล้วย่อมรู้สึก (เวเทติ), ผัสสะกระทบแล้วย่อมคิด (เจเตติ) ผัสสะกระทบแล้วยอมจำได้หมายรู้ (สญฺชานาติ) : แม้ธรรมทั้งหลาย (เวทนา, เจตนา, สัญญา) อย่างนี้เหล่านี้ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่หวั่นไหวด้วย อาพาธด้วย ไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นไปโดยประการอื่น.