ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุ ท.! อย่างนั้นแหละ, ข้อที่ร่างกายเกิดหนักตัวขึ้น, ทิศทั้งหลายไม่กระจ่าง, ธรรมทั้งหลายไม่แจ่มแจ้ง, ถีนมัทธะเขาจับจิต, ฝืนใจประพฤติพรหมจรรย์ล มีความสงสัยในธรรมทั้งหลาย; อาการเหล่านี้ย่อมมีแก่ภิกษุ ผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย, ไม่ประมาณในการบริโภค, ไม่ประกอบชาคริยธรรมเนืองๆ ไม่เห็นแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศล, ไม่ขวนขวายบำเพ็ญโพธิปักขิยธรรมภาวนา ตลอดราตรีเป็นเบื้องต้นและราตรีเป็นเบื้องปลาย.
ภิกษุ ท.! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงสำเหนียกใจไว้ว่า "เราจักเป็นผู้ควบคุมทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย, เป็นผู้รู้ประมาณในการบริโภค, จักประกอบชาคริยธรรมเนื่องๆ, เป็นผู้เห็นแจ้งในธรรมทั้งหลายที่เป็นกุศล, จักเป็นผู้ขวนขวายบำเพ็ญโพธิปักขิยธรรมภาวนาตลอดราตรีเป็นเบื่องต้น และราตรีเป็นเบื้องปลาย" ดังนี้. ภิกษุ ท.! เธอพึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้.
ภิกษุรูปนั้น น้อมรับเอาโอวาทอันนี้ หลีกออกจากหมู่ อยู่แต่ผู้เดียว ไม่ประมาท เพียรเผากิเลส มีตนส่งไปแล้วในการทำเช่นนั้น ในที่สุด ก้ถึงความเป็นพระอรหันต์แล้ว.
- บาลี พระพุทธภาษิต ปญฺจก. อํ. 22/29/56, ตรัสแก่ภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งเกิดหนักเนื้อตัวขึ้น เพราะถูกนิวรณ์ครอบงำ ฝืนใจประพฤติพรหมจรรย์อยู่ จนต้องไปกราบเรียนพระอุปัชฌายะให้ทราบเรื่อง, ท่านจึงพาเข้าไปเฝ้า และได้รับคำแนะนำดังเรื่องนี้.