ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ชาติอื่นอีก : เมื่อเราเป็นพราหมณ์ชื่อจูฬโพธิผู้มีศีล, มองเห็นภพโดยความเป็นของน่ากลัวจึงได้ออกบวช. ภริยาเก่าของเราเป็นพราหมณีมีรูปดั่งทำด้วยทอง. แม้เธอนั้น ก็ไม่ประสงค์ต่อการเวียนว่ายในวัฏฏะ จึงออกบวชเสียด้วยกัน.
เรา 2 คน เป็นผู้ไม่มีที่อาลัย ตัดขาดจากพงศ์พันธุ์ ไม่มีความมุ่งหมายอะไรในตระกูล และหมู่ชน เที่ยวไปตามหมู่บ้านและจังหวัด ลุถึงเมืองพาราณสีแล้ว. ณ ที่นั้น เราบำเพ็ญปัญญา ไม่ระคนด้วยหมู่คณะ อยู่ในราชอุทยานอันไม่มีผู้คนเกลื่อนกล่น และเงียบเสียง.
พระราชาเสด็จมาประพาสสวน ทอดพระเนตรเห็นนางพราหมณี ก็เข้ามาถามเราว่า หญิงนั้นเป็นภริยาของท่าน หรือของใคร? เราทูลตอบว่าไม่ใช่ภริยาของเรา เป็นเพียงผู้ประพฤติธรรมร่วมกัน คือคำสอนอย่างเดียวกัน.
พระราชากำหนัดในนางพราหมณีนั้น รับสั่งให้จับและฉุดคร่านางไปโดยพลการ สู่ภายในนคร. เมื่อฉุดคร่านำนางไป ความโกรธได้เกิดขึ้นแก่เราแต่พร้อมกับความโกรธที่เกิดขึ้นนั้น เราระลึกขึ้นได้ถึงศีลและวัตร. ในขณะนั้นเอง เราข่มความโกรธได้ และไม่ยอมให้เกิดขึ้นมาได้อีก.
เรารู้สึกตัวเราว่า แม้ใครจะทำร้ายนางพราหมณีด้วยหอกคมกล้า เราก็ไม่ทำลายศีลของเรา, เพราะเหตุเห็นแก่โพธิญาณ (มากกว่าเห็นแก่นางพราหมณี). แต่ใช่ว่า นางพราหมณีจะไม่เป็นที่รักของเราก็หาไม่ และใช่ว่าเราจะไม่มีกำลังวังชาก็หาไม่. สัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรา เราจึงตามประคองศีลไว้.
- บาลี จูฬโพธิจริยา จริยา. ขุ. 33/571/14.