ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ทุกข์เกิด เพราะเห็นสัญโญชนิยธรรมโดยความเป็นอัสสาทะPTC97
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อภิกษุเป็นผู้มีปรกติ เห็นโดยความเป็นอัสสาทะ (น่ารักน่ายินดี) ในธรรมทั้งหลาย อันเป็นที่ตั้งแห่งสังโยชน์PTC98 อยู่, ตัณหาย่อมเจริญอย่างทั่วถึง. เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ; เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ; เพราะมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ; เพราะมีชาติเป็นปัจจัย ; ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เปรียบเหมือนประทีปน้ำมัน พึงลุกอยู่ได้เพราะอาศัยซึ่งน้ำมันด้วย ซึ่งไส้ด้วย ; บุรุษพึงเติมน้ำมัน พึงเปลี่ยนไส้ ให้ใหม่อยู่, ตลอดเวลาที่ควรเติมที่ควรเปลี่ยนอยู่ทุกระยะๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! ด้วยอาการอย่างนี้แล ประทีปน้ำมัน ซึ่งมีเครื่องหล่อเลี้ยงอย่างนั้น มีเชื้อเพลิงอย่างนั้น ก็จะลุกโพลงตลอดกาลยาวนาน, ข้อนี้ฉันใด ; ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! เมื่อภิกษุเป็นผู้มีปรกติ เห็นโดยความเป็นอัสสาทะ (น่ารักน่ายินดี) ในธรรมทั้งหลาย อันเป็นที่ตั้งแห่งสังโยชน์อยู่, ตัณหาย่อมเจริญอย่างทั่วถึง. ฉันนั้นเหมือนกัน. เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน ; เพราะมีอุปทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ; เพราะมีภพเป็นปัจจัยจึงมีชาติ ; เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปรีเทวะทุกขะโทมนัสอุปยาสทั้งหาย จึงเกิดชึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
หมายเหตุผู้รวมรวม : ยังมีสูตรอีสูตรหนึ่ง (คือสูตรที่ 4 แห่งทุกขวรรค อภิสมยสังยุตต์ นิทาน. สํ. 16/104/204) มีข้อความเหมือนสูตรบนนี้ทุกประการ ผิดกันแต่ว่าทรงเริ่มต้นสูตรด้วยคำอุปมาก่อน แล้วจึงกล่าวถึงข้อธรรมซึ่งเป็นตัวอุปไมย.
อนึ่ง ยังมีสูตรอีกสูตรหนึ่ง (สูตรที่ 7 ทุกขวรรค อภิสมยสังยุตต์ นิทาน.สํ. 16/107/216) แสดงข้อธรรมอย่างเดียวกันกับสูตรข้างบนนี้ ต่างกันแต่อุปมา : แทนที่จะอุปมาด้วยประทีปน้ำมันดังในสูตรข้างบนนี้ แต่ทรงอุปมาด้วยต้นไม้ยังอ่อนอยู่ มีผู้คอยพรวนดิน รดน้ำ ใส่ปุ๋ย จึงเจริญเติบโต.