ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
(สูตรที่ 1 : อายตนะภายใน 6)
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! การเกิดขึ้น (อุปฺปาโท) การตั้งอยู่ (ฐิติ) การเกิดโดยยิ่ง (อภินิพพนุติ) ปรากฏ (ปาตุภาโร) แห่งจักษุ, อันใด ; อันนั้นเป็นการเกิดขึ้นแห่งทุกข์, เป็นการตั้งอยู่แห่งโรค (สิ่งซึ่งมีปรกติเสียงแหบ) ทั้งหลาย, เป็นการปรากฏออกแห่งชราและมรณะ.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ! และการดับไม่เหลือ (นิโรโธ) การเข้าไปสงบระงับ (วูปสโม) การถึงซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ (อตฺถงฺคโม) แห่งจักษุ, อันใด; อันนั้น เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, เป็นการเข้าไปสงบระงับแห่งโรคทั้งหลาย, เป็นการถึงซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งชราและมรณะ.
(ข้อความในกรณีแห่งจักษุเป็นอย่างไร ข้อความในกรณีแห่งโสตะ ฆานะ ชิวหา กาย มโน ก็เป็นอย่างนั้นเหมือนกัน ทุกตัวอักษร ต่างกันแต่ชื่ออายตนะแต่ละอย่างๆ เท่านั้น. ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่าจักษุ โสตะ เป็นต้นเหล่านี้ ดับไปได้โดยที่คนไม่ต้องตาย ; ดังนั้น คำว่าจักษุเป็นต้นนั้นมิได้หมายถึงดวงตา ตามปรกติ แต่หมายถึงดวงตาที่ทำหน้าที่ของตา แล้วหยุดไปครั้งหนึ่งๆ เรียกว่าจักษุเกิดขึ้นจักษุดับไป โดยที่คนไม่ต้องเกิดใหม่หรือตายลงโดยร่างกาย ; และยังจะเห็นได้ชัดต่อไปอีกว่า ข้อที่ว่าการตั้งอยู่แห่งจักษุ เป็นการตั้งอยู่แห่งโรคทั้งหลายนั้น หมายถึงความเสียดแทงของกิเลสที่เกิดขึ้นจากการที่ตาเห็นรูป ; และการปรากฏแห่งจักษุ คือ การปรากฏแห่งชราและมรณะนั้น หมายความว่า การเห็นทางตา ทำให้ปัญหาอันเกิดแต่ชราและมรณะปรากฎขึ้น ในขณะนั้นนั่นเอง. ทั้งหมดนี้ มีอาการแห่งปฎิจจสมุปบาทซ่อนอยู่ในนั้นครบทุกอาการ นับตั้งแต่อวิชชาไปจนถึงกองทุกข์ทั้งสิ้น. ตัวอย่าง เช่น ตาเกิดเป็นตาขึ้นมา เพราะการเห็นรูปแล้วเกิดจักษุวิญญาณ อันทำให้เกิดการสัมผัสด้วยอำนาจแห่งอวิชชา (อวิชชาสัมผัส) ซึ่งย่อมเป็นการปรุงแต่ง (สังขาร) อยู่ในตัวมันเองทุกระยะ จึงได้มีเวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ ชาติ ชราและความทุกข์ ทุกครั้งที่มีการกระทบทางอายตนะเช่นนั้น.)