ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุ ท.! ถ้าพวกปริพพาชกเดียรถีย์อื่น จะพึงถามเธอ ท. อย่างนี้ว่า "ท่านผู้มีอายุ! พระสมณโคดม ทรงอยู่จำพรรษา ส่วนมาก ด้วยวิหารธรรมไหน เล่า?" ดังนี้. ภิกษุ ท.! เมื่อพวกเธอถูกถามอย่างนี้แล้ว พึงตอบแก่พวกปริพพาชกเดียรถีย์อื่นเหล่านั้น อย่างนี้ว่า "ท่านผู้มีอายุ! พระผู้มีพระภาค ทรงอยู่จำพรรษาส่วนมาก ด้วยวิการธรรมคือ อานาปานสติสมาธิแล" ดังนี้.
ภิกษุ ท.! ในกรณีนี้ เราเป็นผู้มีสติอยู่ หายใจเข้า, มีสติอยู่หายใจออก; เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้สึกตัวทั่วถึง ว่า "เราหายใจเข้ายาว" ดังนี้;เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้สึกตัวทั่วถึง ว่า "เราหายใจออกยาว" ดังนี้. ....(ทรงแสดงอานาปานสติสมาธิจนครบทั้ง 16 ขั้น ดังมีใจความปรากฎอยู่ที่หน้า 99-101 แห่งหนังสือเล่มนี้)....ย่อมรู้สึกตัวทั่วถึง ว่า "เราเป็นผู้ตามเห็นซึ่งความสลัดคืนอยู่เป็นประจำหายใจออก" ดังนี้.
ภิกษุ ท.! เมื่อใครจะกล่าววิหารธรรมใดโดยชอบ ว่าเป็น อริยวิหาร ก็ดีพรหมวิหารก็ดี ตถาคตวิหารก็ดี, เขาพึงกล่าวโดยชอบ ซึ่ง อานาปานสติสมาธิ นั้นว่าเป็น อริยวิหาร พรหมวิหาร ตถาคตวิหาร.
ภิกษุ ท.! ภิกษุ ท. เหล่าใด ยังเป็นเสขะ มีวัตถุประสงค์แห่งใจอันยังไม่บรรลุแล้ว ปรารถนาอยู่ซึ่งโยคักเขมธรรมอันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อยู่; อานาปานสติสมาธิ อันภิกษุเหล่านั้นเจริญทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะ.
ภิกษุ ท.! ส่วนภิกษุ ท. เหล่าใด เป็น อรหันต์ขีณาสพ มีพรหมจรรย์อันอยู่จบแล้ว มีกิจที่ควรทำอันกระทำแล้ว มีภาระหนักปลงลงแล้ว มีประโยชน์ตนอันตามบรรลุแล้ว มีสัญโญชน์ในภพอันสิ้นแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้ด้วยปัญญาโดยชอบ; อานาปานสติสมาธิ อันภิกษุเหล่านั้นเจริญทำให้มาแล้ว ก็ยังเป็นไปเพื่อการอยู่เป็นสุขในทิฎฐธรรมด้วย เพื่อสติสัมปชัญญะอยู่ด้วย.
- บาลี มหาวาร. สํ. 19/412/1364. ตรัสแก่ภิกษุ ท. ที่อิจฉานังคลไพรสณฑ์ ใกล้เมืองอิจฉานังคละ.