[Font : 15 ]
| |
สติปัฏฐาน 4 เหมาะสมทั้งแก่อเสขะ - เสขะ - และคฤหัสถ์ |  

กันทรกะ ! ข้อนั้นเป็นอย่างนั้นจริง. กันทรกะ ! ข้อนั้นเป็นอย่างนั้นจริง. พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ได้มีแล้วในอดีตกาลนานไกล ; พระผู้มีพระภาคเหล่านั้น ทรงยังภิกษุสงฆ์ให้ดำเนินไปชอบอย่างยิ่ง เพียงเท่านั้น เหมือนภิกษุสงฆ์ที่เราให้ดำเนินไปชอบในบัดนี้. กันทรกะ ! พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย จักมีอยู่ในอนาคตกาลนานไกล ; พระผู้มีพระภาคเหล่านั้น ก็จักทรงยังภิกษุสงฆ์ให้ดำเนินไปชอบอย่างยิ่งเพียงเท่านั้น เหมือนภิกษุสงฆ์ที่เราให้ดำเนินไปชอบในบัดนี้.

กันทรกะ ! ในภิกษุสงฆ์หมู่นี้ มี ภิกษุที่เป็นอรหันต์ขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ มีกิจที่ควรทำอันกระทำแล้ว มีภาระอันปลงลงแล้ว มีประโยชน์แห่งตนอันตามถึงแล้ว มีสัญโญชน์ในภพสิ้นรอบแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ. กันทรกะ ! อนึ่ง ในภิกษุสงฆ์หมู่นี้ มี ภิกษุผู้เป็นเสขะ (กำลังปฏิบัติเพื่อความเป็นพระอรหันต์) มีศีลไม่ขาดสาย มีความประพฤติไม่ขาดสาย มีปัญญาเครื่องรักษาตน มีความประพฤติเป็นไปด้วยปัญญาเครื่องรักษาตน. ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น20.18 เป็นผู้มีจิตตั้งไว้เฉพาะด้วยดีในสติปัฏฐานทั้ง 4 อยู่. 4 อย่างไรเล่า ? 4 คือ ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีปรกติตามเห็นกายในกาย .... มีปรกติตามเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลาย .... มีปรกติตามเห็นจิตในจิต .... มีปรกติตามเห็นธรรมในธรรมทั้งหลาย มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้ซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลกอยู่.

(เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้ นายเปสสหัตถาโรหบุตร กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า :-)

“น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า ! ไม่เคยมี พระเจ้าข้า ! คือข้อที่สติปัฏฐาน 4 เหล่านี้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้ดีแล้ว เพื่อความหมดจดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เพื่อก้าวล่วงโสกะปริเทวะ เพื่อความดับแห่งทุกขโทมนัส เพื่อถึงทับซึ่งญายธรรม เพื่อการกระทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีพวกข้าพเจ้าทั้งหลายผู้เป็นคฤหัสถ์นุ่งขาว ก็มีจิตตั้งไว้ดีแล้วในสติปัฏฐานทั้ง 4 เหล่านี้ ตลอดกาลอันควรอยู่ ; คือข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นผู้มีปรกติตามเห็นกายในกาย .... มีปรกติตามเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลาย.... มีปรกติตามเห็นจิตในจิต... มีปรกติตามเห็นธรรมในธรรมทั้งหลาย มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้ซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลกอยู่. น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า ! ไม่เคยมี พระเจ้าข้า ! คือข้อที่เมื่อมนุษย์เป็นสัตว์ไม่เปิดเผย เมื่อมนุษย์เป็นสัตว์เดนกาก เมื่อมนุษย์เป็นสัตว์โอ้อวด เป็นไปอยู่ พระผู้มีพระภาคทรงทราบสิ่งอันเป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์แก่สัตว์ทั้งหลาย (ทุกจำพวก). ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! สัตว์ลึกลับคือพวกมนุษย์ สัตว์เปิดเผย คือพวกปศุสัตว์. ....”

- ม. ม. 13/2 - 3/2 - 3.

(ข้อนี้เป็นหลักการณ์ที่ยอมรับได้ว่า แม้ฆราวาสก็สมควรเจริญสติปัฏฐานทั้ง 4 ดังที่บรรพบุรุษชาวไทยได้เคยกระทำกันมาแต่ก่อน).


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง