ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
1. พยัญชนะ : ศาสนาโดยพยัญชนะ : คือ คำสั่งสอน.
2. อรรถะ : ศาสนาโดยอรรถะ :
2.1 คำสั่งสอนที่ได้รับการยอมรับ จนเกิดเป็นสถาบันขึ้นในจิตใจของมนุษย์ ; ส่วนใหญ่เป็นระบบหนึ่งๆ เรียกว่า ศานานั้นๆ.
2.2 ศาสนาคือระบบคำสั่งสอนและการปฏิบัติ ที่ได้รับการถือเอาเป็นเครื่องอุ่นใจของสังคมมนุษย์ระบบหนึ่งๆ .
2.3 วิธีการเพื่อการรอดจากความตายทางวิญญาณหรือความทุกข์ ซึ่งมนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตจักต้องมี โดยการมอบหมายให้แก่กัน ; หรือมีอยู่ตามธรรมชาติโดยไม่รู้สึกตัว.
3. ไวพจน์ : ศาสนาโดยไวพจน์ : คือ พรหมจรรย์, ทุกขันตกิริยา, ธรรมวินัย, อริยวินัย, สัทธรรม, มัคคปฏิปทา ; หนทางรอด, หนทางพระนิพพาน, ทางผูกพันมนุษย์กับสิ่งสูงสุด.
4. องค์ประกอบ : ศาสนาโดยองค์ประกอบ : คือ ปริยัติ, ปฏิบัติ, ปฏิเวธ.
5. ลักษณะ : ศาสนาโดยลักษณะ :
5.1 อยู่ในลักษณะของปริยัติ คือการเล่าเรียน.
5.2 อยู่ในลักษณะของปฏิเวธ คือผลที่ได้รับจากการปฏิบัติ.
6. อาการ : ศาสนาโดยอาการ : มีอาการแห่งสังขตธรรมที่เกิดดับและเปลี่ยนแปลงได้ ดังเช่นสังขตธรรมทั้งหลาย.
7. ประเภท : ศาสนาโดยประเภท :
7.1 แบ่งโดยประเภทสอง :
กลุ่มที่ 1 :
1. ขณิกวาท : สิ่งทั้งปวงมีชั่วขณะจิต.
2. อขณิกวาท : สิ่งทั้งปวงเป็นตัวตนถาวร จิตนี้เป็นตัวตนเดียว.
กลุ่มที่ 2 :
1. ระบบพึ่งผู้อื่น.
2. ระบบพึ่งตนเอง.
กลุ่มที่ 3 :
1. วิภัชชวาท : สิ่งต่างๆ ประกอบขึ้นด้วยส่วนย่อยๆ.
2. อวิภัชชวาท : สิ่งต่างๆ เป็นตัวตนเดียวไม่อาจจะแบ่งแยก.
7.2 แบ่งโดยประเภทสาม :
กลุ่มที่ 1 :
1. สัทธาธิกะ : เอาความเชื่อเป็นทางรอด.
2. วิริยาธิกะ : เอาความเพียรเป็นทางรอด.
3. ปัญญาธิกะ : เอาปัญญาเป็นทางรอด.
กลุ่มที่ 2 :
1. หลงใหลในวัตถุนิยม : เรียกว่า กามสุขัลลิกานุโยค; จมลงในกามเรียกว่า อาคาฬหปฏิปทา (ปฏิบัติเปียกแฉะ).
2. หลงใหลในจิตนิยม : เรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค; หรือนิชฌามปฏิปทา (ปฏิบัติไหม้เกรียม).
3. ดำรงอยู่ในความถูกต้องระหว่างวัตถุและจิต : เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา (ปฏิบัติระหว่างความเปียกแฉะและความไหม้เกรียม คือความพอดี).
กลุ่มที่ 3 :
1. ปริยัติศาสนา : อยู่ในรูปของการศึกษาเล่าเรียน.
2. ปฏิบัติศาสนา : อยู่ในรูปของการปฏิบัติ.
3. ปฏิเวธศาสนา : อยู่ในรูปของการเสวยผลของการปฏิบัติ.
7.3 แบ่งโดยประเภท 4 : เมื่อเอาภาวะปัจจุบันเป็นหลัก :
1. เอาวัตถุเป็นที่ตั้ง เรียกว่า ศาสนวัตถุ : คือ เอาตัววัตถุเป็นศาสนา.
2. เอาการประกอบพิธีเป็นที่ตั้ง เรียกว่า ศาสนพิธี : คือ เอาตัวพิธีเป็นศาสนา.
3. เอาตัวบุคคลเป็นที่ตั้ง เรียกว่า ศาสนบุคคล : คือเอานักบวชเป็นศาสนา.
4. เอาธรรมะแท้เป็นที่ตั้ง เรียกว่า ศาสนธรรม : คือเอาตัวธรรมะเป็นศาสนา.
8. กฎเกณฑ์ : ศาสนาโดยกฎเกณฑ์ :
8.1 มุ่งหมายสันติภาพของสังคม.
8.2 มุ่งหมายความรอดของมนุษย์.
8.3 มุ่งหมายคุ้มครองโลก.
8.4 ต้องมีระเบียบปฏิบัติให้ครบทุกระบบและชนิดของชนชั้นที่มีอยู่ในโลก.
9. สัจจะ : ศาสนาโดยสัจจะ :
9.1 ศาสนามีสัจจะเฉพาะศาสนาของตนๆ ไม่อาจจะเหมือนกัน.
9.2 แม้จะมีความมุ่งหมายดับทุกข์ด้วยกัน แต่ก็มีระบบปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน ; เนื่องจากผู้รับถือศาสนามีภูมิหลังแห่งชีวิต หรือวัฒนธรรมพื้นฐานที่ต่างกัน.
9.3 ความขัดแย้งระหว่างศาสนา เป็นสิ่งที่ต้องมีอย่างที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ; แต่มีทางประนีประนอมกันได้.
9.4 โลกจำเป็นต้องมีหลายศาสนา และจำเป็นที่จะต้องหาทางประนีประนอมกัน.
9.5 การนับถือศาสนาควรเป็นไปอย่างอิสระเสรีตามความสมัครใจ; แต่ก็ยังมีการถือโดยถูกบังคับ หรือสินจ้างอันยั่วยวนและหลอกลวง.
9.6 คนในโลกถือศาสนาเงินมากกว่าศาสนาธรรม อย่างที่จะเทียบกันไม่ได้.
10. หน้าที่ : ศาสนาโดยหน้าที่ (โดยสมมติ) :
10.1 กำจัดกิเลสและดับทุกข์ของมนุษย์.
10.2 ให้แสงสว่างทางวิญญาณ เพื่อความเหมาะสมแก่ความเป็นมนุษย์.
10.3 ให้เกิดสันติสุขส่วนบุคคลและเกิดสันติภาพส่วนสังคม.
11. อุปมา : ศาสนาโดยอุปมา : เปรียบเสมือน :
11.1 ศาลาพักริมทางของคนเดินทางไกล.
11.2 ยารักษาโรค.
11.3 ตะเกียงส่องทาง.
11.4 เพื่อนทุกข์เพื่อนยากของชีวิตที่กำลังพัฒนา.
11.5 เกาะที่พึ่งของคนตกทะเล.
11.6 เรือแพเพื่อการข้ามฟาก.
11.7 ร่มคันใหญ่ของโลก.
11.8 สวนดอกไม้มหาศาล.
11.9 ประภาคารแห่งชีวิต.
12. สมุทัย : ศาสนาโดยสมุทัย :
12.1 สัญชาตญาณแห่งความกลัวและหนีภัย เป็นสมุทัยของศาสนาในส่วนลึก.
12.2 วิกฤตการณ์ในโลกมนุษย์ เป็นสมุทัยให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าศาสนาสูงขึ้นมาๆ ตามลำดับ.
13. อัตถังคมะ: ศาสนาโดยอัตถังคมะ :
13.1 การผันแปรไปตามกฎเกณ์แห่งความไม่เที่ยงแห่งสังขาร ดังที่ศาสนาต่างๆ ในอดีต ได้ดับสูญไปแล้ว.
13.2 บริษัททั้งสี่แห่งศาสนานั้นๆ ละเลยหรือทรยศต่อหน้าที่ของตน.
13.3 ผู้สอนแห่งศาสนานั้นๆ สอนผิด จนกลายเป็นลัทธิอื่นไปโดยไม่รู้ตัว.
13.4 อัตถังคมะของศาสนา :
1. ศาสนาที่อยู่ในรูปของวัตถุ มี เมื่อวัตถุนั้นชำรุดทรุดโทรมไป.
2. ศาสนาที่อยู่ในรูปของพิธี มี เมื่อพิธีนั้นเปลี่ยนรูปไปเป็นอย่างอื่น ; ตัวอย่างเช่น พุทธศาสนากลายเป็นไสยศาสตร์ไป.
3. ศาสนาที่อยู่ในรูปของบุคคล มี เมื่อนักบวชในศาสนานั้นประพฤตินอกรีต.
4. ศาสนาที่อยู่ในรูปของธรรมะ มี เมื่อการศึกษาและการปฏิบัติเลอะเลือน.
14. อัสสาทะ : ศาสนาโดยอัสสาทะ : เสน่ห์ของศาสนา :
14.1 ทำให้เกิดความรู้สึกอุ่นใจ เย็นใจ แม้จะยังดับทุกข์ไม่ได้จริง.
14.2 ดับทุกข์ได้จริง.
14.3 มีอัสสาทะเหมือนยาเสพติด : เมื่อมีการเชื่อ, การรับถือ, การปฏิบัติอย่างงมงาย จนถึงกับบ้าหรือเมาหรือหลงในลัทธินั้นๆ.
15. อาทีนวะ : ศาสนาโดยอาทีนวะ : อาทีนวะโดยตรงไม่มี. จะมีก็ต่อเมื่อถูกนำไปใช้อย่างผิดๆ ; หรือถูกใช้เป็นเครื่องมือแห่งการหลอกลวง ; เช่น การแสวงหาเมืองขึ้น การดูดซับสมาชิกแห่งศาสนาอื่น มาเป็นสมาชิกแห่งศาสนาของตน.
16. นิสสรณะ : ศาสนาโดยนิสสรณะ : ทางออกจากศาสนาไม่จำเป็นต้องมี ; มีแต่ศาสนาเป็นหนทางนำออกจากทุกข์ : คือ อริยอัฏฐังคิกมรรค.
17. ทางปฏิบัติ : ศาสนาโดยทางปฏิบัติ :
17.1 ศาสนาเป็นตัวทางปฏิบัติเพื่อออกจากทุกข์.
17.2 การปฏิบัติเพื่อเข้าถึงศาสนา : คือ การปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักศาสนานั่นเอง ; เช่น ปฏิบัติถูกต้องตามกฎของธรรมชาติ ; การปฏิบัติเพื่อทำลายความเห็นแก่ตัว ; ซึ่งเป็นความมุ่งหมายตรงกันทุกศาสนา.
18. อานิสงส์ : ศาสนาโดยอานิสงส์ :
18.1 ทำให้ได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์ควรจะได้รับ ทั้งทางกายและทางจิต.
18.2 โลกทั้งหมดจะได้รับสันติสุขส่วนบุคคลและสันติภาพส่วนสังคม.
18.3 ช่วยให้มนุษยชาติถึงจุดสูงสุดของความเป็นมนุษย์.
18.4 ช่วยให้เกิดความรักสากล.
19. หนทางถลำ : ศาสนาโดยหนทางถลำ :
19.1 ความเบื่อโลกและวัตถุที่มีอยู่อย่างซ้ำซากและหลอกลวง.
19.2 การบังเอิญได้พบพระอริยเจ้าหรือสัตบุรุษ.
19.3 การมีกัลยาณมิตรแวดล้อม.
19.4 การพัฒนาตนจนถึงที่สุดแห่งประโยชน์ทางโลก.
20. สิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง: ศาสนาโดยสิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : สิ่งที่มนุษย์จะต้องมีในการเกี่ยวข้อง, การปฏิบัติ และการดำรงรักษาศาสนา : คือ การศึกษา, การปฏิบัติ, การมี, การใช้ให้เป็นประโยชน์ และการเผยแผ่.
21. ภาษาคน - ภาษาธรรม : ศาสนาโดยภาษาคน - ภาษาธรรม : มีความหมายเป็นหลายลักษณะ :
21.1 ภาษาคน : หมายถึงคำสั่งสอน.
ภาษาธรรม : หมายถึงตัวการปฏิบัติหรือพรหมจรรย์.
21.2 ภาษาคน : หมายถึงวัตถุ พิธี นักบวชซึ่งเป็นสัญลักษณ์ภายนอก.
ภาษาธรรม : หมายถึงตัวธรรมะที่ดับทุกข์ได้จริง.
21.3 ภาษาคน : (ของลูกเด็กๆ) หมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์.
ภาษาธรรม : (ของผู้มีการศึกษา) หมายถึงวิทยาศาสตร์แห่งการดับทกุข์.
21.4 ภาษาคน : หมายถึงสิ่งที่ประทานลงมาจากพระเจ้าในเบื้องบน.
ภาษาธรรม : หมายถึงกฎความจริงของธรรมชาติซึ่งมีอยู่ในตัวมันเอง.
21.5 ภาษาคน : มีการลงโทษหรือให้รางวัลจากเบื้องบน.
ภาษาธรรม : มีการลงโทษหรือให้รางวัลอยู่ในตัวมันเอง.
ธรรมโฆษณ์ที่แนะนำให้อ่าน
1. ใจความแห่งคริสตธรรมฯ
2. เตกิจฉกธรรม
3. สันทัสเสตัพพธรรม
4. อะไรคืออะไร ?