ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
1. พยัญชนะ : สุขโดยพยัญชนะ : คือ ทนง่าย (ทนสบาย), ดูแล้วไม่น่าเกลียด, ว่างอย่างไม่น่าเกลียด.
2. อรรถะ : สุขโดยอรรถะ :
2.1 ความรู้สึกที่สามัญสัตว์พอใจ ; แต่ก็มีอาการที่ต้องทนอยู่โดยไม่รู้สึกตัว ; และสมัครจะทนด้วยความพอใจ เช่น ทนแบกเพชรพลอย.
2.2 ดูแล้วไม่น่าเกลียดสำหรับปุถุชน แต่พระอรหันต์ท่านสั่นเศียร.
2.3 ว่างอย่างไม่น่าเกลียด แต่ยังคงว่างจากสาระและความหมายแห่งความเป็นตัวตนอยู่นั่นเอง.
3. ไวพจน์ : สุขโดยไวพจน์ : คือ อนีฆะ, อนุปัทวะ, เขมะ ฯลฯ เกษม, สำราญ, ผาสุก ฯลฯ
4. องค์ประกอบ : สุขโดยองค์ประกอบ :
4.1 องค์ประกอบของสามัญสุข :
1. วิชชาและสังขารธรรมที่เกิดจากวิชชา.
2. ในฐานะที่เป็นที่ตั้งอาศัย : ได้แก่ ธาตุ, อายตนะ, ขันธ์ เป็นต้น.
3. ปัจจัยแห่งการยึดมั่นฝ่ายดีหรือฝ่ายกุศล.
4. ถ้าเป็นพาลสุข (สุขของอันธพาลหรือมิจฉาทิฏฐิ) ; มีอวิชชา หรือสังขารที่เกิดจากอวิชชาในขั้นเต็มขนาด เป็นองค์ประกอบ.
4.2 องค์ประกอบของโลกุตตรสุข : คือ วิชชา, สัมมาทิฏฐิ และการกระทำที่เกิดจากวิชชาและ สัมมาทิฏฐิที่เต็มขนาด.
5. ลักษณะ : สุขโดยลักษณะ : มีลักษณะ :
5.1 หลอกให้หลงยึดมั่นถือมั่น.
5.2 ทนง่ายหรือชวนให้ทน ยิ่งทนยิ่งชอบ.
5.3 ดูแล้วไม่น่าเกลียด ชวนให้รักให้หลง.
5.4 ว่างอย่างไม่น่าเกลียดสำหรับสามัญชน แต่ไม่มีความหมายสำหรรับพระอรหันต์.
5.5 กัดเจ้าของอย่างลึกซึ้งซ่อนเร้น.
6. อาการ : สุขโดยอาการ :
6.1 มีอาการตรงกันข้ามจากความทุกข์.
6.2 โลกุตตรสุขมีอาการที่ไม่เป็นไปตามอำนาจของกิเลส : คือ ไม่รัก, ไม่โกรธ, ไม่เกลียด, ไม่กลัว, ไม่ตื่นเต้น, ไม่วิตกกังวล, ไม่อาลัยอาวรณ์, ไม่อิจฉาริษยา, ไม่หวง, ไม่หึง ฯลฯ ; แม้จะยังมีเชื้อเหลืออยู่หรือหมดเชื้อโดยสิ้นเชิง.
7. ประเภท : สุขโดยประเภท :
7.1 แบ่งโดยประเภทสอง :
กลุ่มที่ 1 :
1. สามิสสุข : สุขที่อิงอามิส หรือสุขที่อาศัยกามคุณ.
2. นิรามิสสุข : สุขที่ไม่อิงอามิส (อาศัยนิพพาน).
กลุ่มที่ 2 :
1. โลกิยสุข : ตามวิสัยโลก.
2. โลกุตตรสุข : เหนือวิสัยโลก.
กลุ่มที่ 3 :
1. เคหสิตสุข : สุขอาศัยบ้านเรือน.
2. เนกขัมมสิตสุข : สุขอาศัยการออกจากเรือน.
กลุ่มที่ 4 :
1. พาลสุข : สุขตามความรู้สึกของคนพาล.
2. บัณฑิตสุข : สุขตามความรู้สึกของบัณฑิต.
7.2 แบ่งโดยประเภทสาม :
1. สุขทางกาย : และสิ่งที่เนื่องด้วยกายคือวัตถุ.
2. สุขทางจิต : จิตไม่หวั่นไหว กิเลสนิวรณ์ไม่รบกวน.
3. สุขทางวิญญาณ : (ทางทิฏฐิ สติปัญญา) : อวิชชาไม่รบกวน.
7.3 แบ่งโดยประเภท 4 :
1. สุขชั้นกามาวจรภูมิ : สุขจากกามธาตุ.
2. สุขชั้นรูปาวจรภูมิ : สุขจากรูปธาตุ.
3. สุขชั้นอรูปาวจรภูมิ : สุขจากอรูธาตุ.
4. สุขชั้นโลกุตตรภูมิ : สุขจากนิโรธธาตุ คือการอยู่เหนือวิสัยโลก.
8. กฎเกณฑ์ : สุขโดยกฎเกณฑ์ :
8.1 ความสุข (หรือความทุกข์) มิได้มาจากกรรมเก่า หรือพระเป็นเจ้าบันดาล ; แต่มาจากการปฏิบัติถูก (หรือผิด) ต่อกฎอิทัปปัจจยตา.
8.2 ความสุขเป็นสิ่งที่มีเหตุปัจจัย เช่นเดียวกับสังขารธรรม หรือสังขตธรรมทั้งปวง ; ต้องจัดการที่เหตุที่ปัจจัย เพราะมันขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัย.
8.3 ความสุขที่แท้จริงต้องมาจากการกระทำที่ถูกต้อง ; คือเป็นประโยชน์ทั้งตนเองและผู้อื่น.
8.4 ความสุขเกิดมาจากความพอใจ. ถ้าเป็นความพอใจของกิเลสก็เป็นความสุขลวง ; ถ้าเป็นความพอใจของสติปัญญา ก็เป็นความสุขจริง.
9. สัจจะ : สุขโดยสัจจะ :
9.1 สุขที่มีความยึดมั่นถือมั่นเป็นสุขร้อน เป็นไปเพื่อวัฏฏสงสาร ; สุขที่ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นเป็นสุขเย็น เป็นไปเพื่อพระนิพพาน.
9.2 ความหมดอัสมิมานะ (ความยึดถือว่าตัวตน) ก็ดี ; ความรำงับแห่งสังขาร (หยุดการปรุงแต่ง) ก็ดี ; นิพพานก็ดี ; มีความหมายเป็นความสุขอย่างยิ่งโดยเสมอกัน.
9.3 คำว่าสุขอย่างยิ่ง ; หมายถึงความสุขที่เหนือความสุข ชนิดที่กล่าวกันอยู่ตามธรรมดา ; คือ เหนือสุข เหนือทุกข์ ที่ยังเป็นคู่ตรงกันข้ามต่อกัน.
9.4 ขึ้นชื่อว่าความสุขแล้ว ไม่ว่าชนิดใด ต้องมาจากความสงบ ; ซึ่งมีทั้งชนิดเทียมและชนิดแท้, ชนิดต่ำและชนิดสูง (แม้แต่เด็กได้ตุ๊กตาก็เป็นการสงบความอยากระดับหนึ่ง)
10. หน้าที่ : สุขโดยหน้าที่ :
10.1 หน้าที่ (โดยสมมติ) ของความสุข : คือ ระงับทุกข์หรือหล่อเลี้ยงชีวิต.
10.2 หน้าที่ของบุคคลต่อความสุข : คือ ต้องศึกษาและปฏิบัติให้ถูกต้อง ; จนกล่าวได้ว่ามีความสุข.
10.3 หน้าที่ของสังคมหรือคนทั้งโลกต่อความสุข : คือ ต้องช่วยกันสร้างสันติภาพ หรือความสงบของโลก.
11. อุปมา : สุขโดยอุปมา :
11.1 โลกิยสุขอุปมาด้วยเพชรเทียม ; โลกุตตรสุขอุปมาด้วยเพชรแท้.
11.2 สุขร้อนหรือสุขเทียม เปรียบเสมือนของตบตาให้โง่ ; สุขเย็น หรือสุขแท้จริง อุปมาเหมือนของจริงไม่ตบตา ; และให้สำเร็จประโยชน์แท้จริง.
12. สมุทัย : สุขโดยสมุทัย :
12.1 สมุทัยของโลกิยสุข คือ อวิชชา ; สมุทัยของโลกุตตรสุข คือ วิชชา.
12.2 สมุทัยของโลกิยสุข คือ การยึดมั่นถือมั่น ; สมุทัยของโลกุตตรสุข คือ การไม่ยึดมั่นถือมั่น.
12.3 สมุทัยของโลกิยสุข คือ การปรุงแต่ง.
12.4 การปฏิบัติถูกต้องตามกฎของอิทัปปัจจยตา ; มีได้ทั้งสุขเทียมและสุขแท้.
13. อัตถังคมะ : สุขโดยอัตถังคมะ :
13.1 ความดับไปตามคราวเพราะขาดเหตุปัจจัยตามธรรมดาของสังขารธรรม หรือสังขตธรรมทั้งหลาย.
13.2 การปฏิบัติผิดต่อกฎอิทัปปัจจยตา.
13.3 โลกิยสุขดับไปเมื่อญาณทัสสนะในโลกุตตรสุขเกิดขึ้น.
13.4 โลกุตตรสุขดับหรือไม่ปรากฏอีกต่อไป เมื่อจิตของพระอเสขะ (พระอรหันต์) ดับ.
14. อัสสาทะ : สุขโดยอัสสาทะ :
14. อัสสาทะ : สุขโดยอัสสาทะ :
14. อัสสาทะ : สุขโดยอัสสาทะ :
14.1 อัสสาทะในตัวความสุขเอง คือ ความเพลิดเพลิน ความน่ารัก น่าพอใจ ; ซึ่งเป็นตัวเสน่ห์ของสิ่งที่เรียกว่าความสุข.
14.2 อัสสาทะที่บุคคลจะได้รับจากความสุข คือ ความพอใจตามชนิดของความสุข.
14.3 โลกุตตรสุขไม่มีอัสสาทะ เพราะอยู่เหนืออัสสาทะ.
15. อาทีนวะ : สุขโดยอาทีนวะ :
15.1 ปิดบังความจริง.
15.2 ความหลอกหลวงให้คนหลงใหล.
15.3 กัดเจ้าของผู้ยึดมั่นถือมั่น.
15.4 โลกุตตรสุขไม่มีอาทีนวะ.
16. นิสสรณะ : สุขโดยนิสสรณะ :
16.1 ตัวความสุขไม่เป็นนิสสรณะ ; แต่บุคคลต้องมีนิสสรณะ เพื่อออกมาเสียจากอำนาจครอบงำของความสุข ; สิ่งนั้นคือ อริยมรรคมีองค์ 8.
16.2 การเห็นตามความเป็นจริงว่า ; ความสุขเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา.
16.3 วิปัสสนาญาณที่ทำลายความยึดมั่นถือมั่นว่าตัวกู ของกู เสียได้.
17. ทางปฏิบัติ : สุขโดยทางปฏิบัติ :
นัยที่ 1 : เพื่อเข้าถึงความสุข :
1. ปฏิบัติถูกต้องตามกฎอิทัปปัจจยตา ซึ่งมีทั้งระดับโลกิยสุข และโลกุตตรสุข.
1. ปฏิบัติถูกต้องตามกฎอิทัปปัจจยตา ซึ่งมีทั้งระดับโลกิยสุข และโลกุตตรสุข.
2. การดำเนินชีวิตในหสทางแห่งอริยอัฏฐังคิกมรรค.
นัยที่ 2 : เพื่อออกจากอำนาจของความสุข :
1. ดำเนินชีวิตอยู่ในหนทางที่เรียกว่า อริยอัฏฐังคิกมรรค.
2. มีสัมมาทิฏฐิที่ทำให้ไม่หลงใหลในอัสสาทะของความสุข.
18. อานิสงส์ : สุขโดยอานิสงส์ :
18.1 อานิสงส์ของโลกิยสุข :
1. โลกิยสุขสำหรับเป็นสุขอยู่ในโลก.
2. สุขในนามของคำว่าสุขก็ดี สุขในนามของคำว่าปีติก็ดี เป็นปัจจัยแห่งสมาธิอย่างจำเป็น.
18.2 อานิสงส์ของโลกุตตรสุข : คือ เป็นที่สิ้นสุดแห่งความทุกข์ทั้งปวง.
19. หนทางถลำ : สุขโดยหนทางถลำ :
นัยที่ 1 : เข้าไปสู่สามิสสุข :
1. การตามใจตัวเอง คือตามใจกิเลส จนเห็นกงจักรเป็นดอกบัว (เห็นสามิสสุขเป็นดอกบัว)
2. การเป็นอยู่อย่างไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง ไม่ได้เห็นเหล่าพระอริยเจ้า ; ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า ; (ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้จะถลำเข้าไปได้โดยง่าย).
3. การเป็นอยู่อย่างประมาณ ; ไม่มีความเคารพในความไม่ประมาท.
นัยที่ 2 : เข้าไปสู่นิรามิสสุข : คือ การเป็นอยู่อย่างตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในกรณีขอสามิสสุข.
20. สิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : สุขโดยสิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง :
20.1 เพื่อเข้าถึงความสุข :
1. บูชาความสุขทางวัตถุ.
2. มีสัปปายธรรมเพื่อความเป็นเช่นนั้น.
20.2 เพื่อออกจากความสุข :
1. ไม่บูชาความสุขจากวัตถุ หรือวัตถุนิยม.
2. มีสัปปายธรรมเพื่อความเป็นเช่นนั้น.
21. ภาษาคน - ภาษาธรรม : สุขโดยภาษาคน - ภาษาธรรม :
21.1 ภาษาคน : สิ่งที่น่ารัก น่าพอใจ น่าแสวงหา.
ภาษาธรรม : สิ่งที่ต้องระมัดระวังอย่าให้ไปหลงใหล (มันจะกัดเอา).
21.2 ภาษาคน : เป็นมิตรแท้.
ภาษาธรรม : เป็นมิตรเทียมที่ต้องระวัง.
ภาษาธรรม : เป็นมิตรเทียมที่ต้องระวัง.
ธรรมโฆษณ์ที่แนะนำให้อ่าน
1. ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์
2. ชุมนุมปาฐกถาชุดพุทธธรรม
3. มาฆบูชาเทศนา เล่ม 1
4. ราชภโฏวาท