ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
"ท่านผู้เจริญ ท.! ขอท่าน ท. จงใคร่ครวญซึ่งธรรมนี้ที่ตรัสไว้โดยพระผู้มีพระภาคผู้มีธรรมจักษุ เป็นดั่งแพทย์ผู้ผ่าตัด เป็นมหาวีระ ดุจดังสีหะบันลือสีหนาทอยู่ในป่า, ใครเล่าเห็นพระองค์ผู้เป็นพรหม ทรงพระคุณเกินกว่าที่จะวัดได้ ผู้ย่ำยีมารและเสนามารเสียได้แล้วจะไม่เลื่อมใส แม้ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นพวกอภิชาติแห่งกัณหโคตร. ผู้ใดปรารถนาก็จงตามเรามา; ผู้ใดไม่ปรารถนา จงกลับไป; ข้าพเจ้าจักบรรพชาในที่นี้ ในสำนักแห่งพระองค์ผู้มีปัญญาอันประเสริฐ." คำของเสลพราหมณ์กล่าวแก่บริวาร.
"ถ้าคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธะ เป็นที่ชอบใจแก่ท่านอย่างนี้ไซร้ แม้พวกเราก็จักบวชในสำนักแห่งพระองค์ผู้มีปัญญาอันประเสริฐนั้นด้วยเหมือนกัน." พราหมณ์ 300 คนเหล่านั้น มีเสลพราหมณ์เป็นหัวหน้า กระทำอัญชลีขอบรรพชาว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาค!ข้าพเจ้า ท. ขอประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักของพระองค์."
(พระผู้มีพระภาค ตรัสแก่พวกเสลพราหมณ์ว่า :-)
"พรหมจรรย์ เป็นสิ่งที่เรากล่าวไว้ดีแล้ว มีผลอันผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นได้ด้วยตนเอง ไม่จำกัดอยู่ด้วยเวลา; ซึ่งในพรหมจรรย์นั้น บรรพชาของผู้ไม่ประมาท ศึกษาอยู่ ย่อมไม่เป็นโมฆะเลย" ดังนี้.
- บาลี เสลสูตร ม.ม. 13/555/609, สุตฺต. ขุ. 25/445/377. ตรัสแก่เสลพราหมณ์ ที่อาปณนิคม แคว้นอังคุตตราปะ