ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุ ท.! พวกเธอทั้งหลาย จงเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ มีปาติโมกข์สมบูรณ์อยู่เถิด, จงเป็นผู้สำรวมในปาติโมกขสังวร มีมรรยาทและโคจรสมบูรณ์อยู่เถิด, จงมีปรกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลาย ซึ่งมีประมาณเล็กน้อย สมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลายเถิด.
ภิกษุ ท.! เมื่อพวกเธอทั้งหลาย สมบูรณ์ด้วยศีลเช่นนั้นแล้ว อะไรเล่าเป็นกิจที่พวกเธอจะตอ้งทำให้ยิ่งๆ ขึ้นไป?
ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุเดินอยู่ก็ตาม, ยืนอยู่ก็ตาม, นั่งอยู่ก็ตาม, นอนตื่นอยู่ก็ตาม, อภิชฌาและพยาบาทของภิกษุนั้นก็ปราศจากไปแล้ว, ถีนมิทธะ, อุทธัจจกุกกุจจะ, วิจิกิจฉาของเธอก็ละได้แล้ว, ความเพียรก็ปรารถแล้วไม่ย่อหย่อน, สติก็ตั้งมั่นไม่ฟั่นเฟือน, กายก็ระงับไม่กระสับกระส่วย, จิตก็ตั้งมันเป็นหนึ่งแน่; ภิกษุ ท.! ภิกษุที่เป็นได้เช่นนี้ แม้จะเดินอยู่ก็ตาม ยืนอยู่ก็ตาม นั่งอยู่ก็ตาม นอนตื่นอยู่ก็ตาม, เราเรียกว่า "ผู้มีความเพียรเผากิเลส, มีความกลัวต่อโทษแห่งวัฏฏะ, เป็นผู้ปรารถความเพียรติดต่อสม่ำเสมอเป็นนิจ, เป็นผู้มีตนส่งไปในแนวแห่งความหลุดพ้นตลอดเวลา" ดังนี้.
- บาลี พระพุทธภาษิต จตุกฺก. อํ. 21/18/12.