[Font : 15 ]
| |
เสด็จหมู่บ้านนาทิกะ |  

อานนท์! มาเถิด, เราจักไปหมู่บ้านนาทิกะ (ณ ที่นี้ประทับที่บ้านพักอันก่อด้วยอิฐ ได้ตรัสตอบคำถามของพระอานนท์ ถึงเรื่องคติในภพหน้าอขงชนเป็นอันมากผู้ทำกาละแล้วในหมู่บ้านนั้น). อานนท์! ภิกษุสาฬหะ (มรณภาพแล้วในบ้านนาทิกะนี้) หาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะ ท. เธอทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติด้วยปัญญาอันยิ่งเองในทิฎฐธรรมนี้แล้วแลอยู่แล้ว (บรรลุพระอรหันต์แล้ว).

อานนท์! ภิกษุณีนันทาเป็นผู้โอปปาติกะ เพราะความสิ้นไปแห่งสัญโญชน์ในเบื้องต่ำ 5 อย่าง จักปรินิพพานในภพ (สุทธาวาส) นั้น ไม่กลับมาจากโลกนั้นอีก (คือเป็นอนาคามี).

อานนท์! อุบาสกสุทัตตะ เป็นสกทาคามี เพราะหมดสัญโญชน์ 3 อย่าง และมีราคะโทสะ โมหะบางเบา, จักมาสู่โลกนี้อีกคราวเดียว แล้วถึงที่สุดแห่งทุกข์.

อานนท์! อุบาสิกาสุชาตา เป็นโสดาบัน เพราะหมดสัญโญชน์สามอย่าง, มีความไม่ตกต่ำ (ลงอบาย) เป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง (ต่อนิพพาน) เป็นผู้มีการตรัสรู้ในเบื้องหน้า.

อานนท์! อุบาสกกกุธะ อุบาสกการฬิมภะ อุบาสกนิกฎะ อุบาสกกฎิสสหะ อุบาสกตุฎฐะ อุบาสกสันตุฎฐะ อุบาสกกภฎะ อุบาสกสุภฎะ และอุบาสกอีก 50 กว่าคน ทุกคนล้วนแต่เป็นโอปปาติกะ เพราะความสิ้นไปแห่งสัญโญชน์ในเบื้องต่ำห้าอย่าง จักปรินิพพานในภพ (สุทธาวาส) นั้น ไม่เวียนกลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา, (คือเป็นอนาคามี).

อานนท์! อุบาสกอีก 96 คน ในบ้านนาทิกะที่ทำกาละแล้ว เธอเป็นสกทาคามี เพราะหมดสัญโญชน์ 3 อย่าง และมีราคะโทสะโมหะบางเบา, จักมาสู่โลกนี้อีกคราวเดียว แล้วถึงที่สุดแห่งความทุกข์

อานนท์! อุบาสกอีก 510 คน ในบ้านนาทิกะ ที่ทำกาละแล้ว,เธอเป็นพระโสดาบัน เพราะหมดสัญโญชน์สามอย่าง, มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดาเที่ยงแท้ (ต่อนิพพาน) มีการตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า. (ต่อจากนี้ ได้ตรัสเครื่องวัดสำหรับตนเองว่าเป็นผู้บรรลุโสดาบันหรือไม่, วัดด้วยการมีความเชื่อ ความเลื่อมใสไม่หวั่นไหวใน พระพุทธ-พระธรรม-พระสงฆ์-และมีศีลบริสุทธิ์อย่างยิ่ง).

- มหาปรินิพพานสูตร มหา. ที. 10/108/89.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง