ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
1.พยัญชนะ : สวรรค์โดยพยัญชนะ : คือสิ่งเกาะเกี่ยว หรือสามารถเกาะเกี่ยว.
2. อรรถะ : สวรรค์โดยอรรถะ :
นัยที่ 1 : ภพหรือโลกที่เป็นอยู่แห่งสัตว์ : ได้แก่ กามาวจรภพ, รูปาวจรภพ, อรูปาวจรภพ.
นัยที่ 2: ภูมิแห่งจิตของสัตว์ : ได้แก่ กามาวจรภูมิ, รูปาวจรภูมิ, อรูปาวจรภูมิ.
ทั้งหมดนั้นแยกเป็น 2 ประเภท: คือ สวรรค์ชั้นกามและสวรรค์ชั้นพรหม ; ทุกชั้นเป็นที่เกาะเกี่ยวแห่งจิตของสัตว์ผู้ยังยึดมั่นด้วยอุปทาน.
3. ไวพจน์ : สวรรค์โดยไวพจน์ : คือ สคฺค, สุคติ, เทวโลก, มารโลก, พรหมโลก.
4. องค์ประกอบ : สวรรค์โดยองค์ประกอบ : คือเป็นเหยื่อล่อให้หลง ; ความเย็บร้อยให้ติดแน่น ; ความผูกพันไม่ให้หลุดออกไปจากอำนาจ ; ความเป็นที่เกาะเกี่ยวของตัณหา ; ความเป็นที่ตั้งของอุปทาน.
5. ลักษณะ : สวรรค์โดยลักษณะ : มีลักษณะ :
5.1 แห่งความเป็นอนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา, เช่นเดียวกับสังขตธรรมทั้งหลาย.
5.2 แห่งการหลอกลวงคนพาล, คนโง่,คนมีอวิชชา,ให้หลงใหลจนสูญเสียอิสรภาพ.
5.3 แห่งการหลอกลวงที่ซ่อนเร้น, เป็นเพียงมายา, เห็นได้ยาก, สลัดได้ยาก.
6. อาการ : สวรรค์โดยอาการ : มีอาการ :
6.1 แห่งการคลุกคลีด้วยเหยื่อหรืออารมณ์ ; ทั้งที่เป็นกามธาตุ, รูปธาตุ, และอรูปธาตุ.
6.2 แผดเผาด้วยไฟที่เปียกและเย็น.
6.3 ของเบ็ดที่เกี่ยวสัตว์หลายชั้นเชิง.
7. ประเภท : สวรรค์โดยประเภท : มีสอง :
นัยที่ 1 :
1. สวรรค์ที่กล่าวตามสนันตนธรรม : ( คำกล่าวของเก่าโบราณก่อนก่อนพุทธกาลนานไกล) ; คือ สวรรค์ที่อยู่เหนือฟ้า จะถึงได้ต่อตายแล้ว ; สมบูรณ์ด้วยกามารมณ์.
2. สฬายตนิกสวรรค์ : ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า : เป็นไปทางอายตนะที่นี่และเดี๋ยวนี้ ; เป็นความพอใจที่เกี่ยวกับกามารมณ์ก็ได้.
นัยที่ 2 :
1. สวรรค์ที่เกี่ยวกับกามารมณ์.
2. สวรรค์ที่ไม่เกี่ยวกับกามารมณ์ แต่เกี่ยวกับความสุขที่เกิดจากสมาธิ. (พิเศษ : สวรรค์แห่งศาสนาอื่นๆ ก็มีอยู่ตามที่กล่าวไว้ในคัมภีร์ แห่งศาสนานั้นๆ).
8. กฎเกณฑ์ : สวรรค์โดยกฎเกณฑ์ :
8.1 สวรรค์ต้องเป็นสิ่งที่ให้ความพอใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ตั้งแต่กามธาตุขึ้นไปถึงอรูปธาตุ ) ; จนกว่าจะสิ้นสุดอาณาจักรแห่งความพอใจ คือออกไปสู่นิโรธธาตุ หรือนิพพาน. ดังนั้นสวรรค์จึงมีหลายชั้นหลายชนิด ตามลักษณะแห่งอารมณ์หรือความพอใจตามชั้นของตนๆ.
8.2 เป็นพุทธบริษัทต้องรู้จักสวรรค์ (หรือนรกก็ตาม) ที่เป็นไปทางอายตนะที่นี่และเดี๋ยวนี้.
8.3 สวรรค์ทุกชั้นไม่ใช่ความหลุดพ้น ; ดังนั้นอย่าไปผูกพันตัวเองไว้ กับสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่ง ; แม้จะสวยสดงดงามสักเพียงใด.
9. สัจจะ : สวรรค์โดยสัจจะ :
9.1 สวรรค์ทุกชั้นเป็นที่เกี่ยวเกาะของสัตว์ และเกี่ยวเกาะสัตว์มิใช้เพื่อความหลุดพ้นหรือดับทุกข์ ; อย่างมากก็เป็นแค่เครื่องกลบเกลื่อนทุกข์ชั่วคราว. ทุกคนจึงควรระวังสิ่งที่เรียกว่าสวรรค์.
9.2 สวรรค์ทาง ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, ใจ เป็นสิ่งที่จัดเตรียมได้ ควบคุมได้ ; ไม่เหมือนสวรรค์บนฟ้าต่อตายแล้ว; ซึ่งควบคุมไม่ได้ หรือจัดเตรียมไม่ได้ตามความพอใจของเรา.
9.3 สวรรค์เป็นสิ่งที่บ้าได้, เมาได้, หลงได้, ทำอันตรายได้;จึงเป็นสิ่งที่ควรเกี่ยวข้องให้ปลอดภัย ด้วยความไม่ประมาท.
9.4 สวรรค์ของลูกไก่ใต้ปีกแม่ มีน้ำหนักหรือความหมาย เท่ากับสวรรค์ในวิมานของพวกเทวดา.
9.5 สวรรค์มิใช่สิ่งสะอาด แต่ยังสกปรกอยู่ด้วยกิเลสตัณหาอุปาทานบางชนิด ; นี้เป็นสิ่งที่ควรทราบไว้.
9.6 ความพอใจในสวรรค์เป็นอุปสรรคของการบรรลุพระนิพพาน.
9.7 สวรรค์เป็นเรื่องบวก (positive) มากเกินไป ; เช่นเดียวกับนรกเป็นเรี่องลบ (negative) อย่างสุดเหวี่ยง. ถ้ายังถูกเกี่ยวเกาะอยู่ด้วยสิ่งทั้งสองนี้ นิพพานย่อมไม่ปรากฎ.
10. หน้าที่ : สวรรค์โดยหน้าที่ :
นัยที่ 1 : สวรรค์มีหน้าที่ (โดยสมมติ) : เกี่ยวเกาะหรือกักขังสัตว์.
นัยที่ 2 : บุคคลมีหน้าที่มองเห็นโทษอันเกิดจากการเกี่ยวเกาะของสัตว์ : แล้วเปลื้องตัวออกมาเสียให้ได้ หรือใช้เป็นบันไดเพื่อคุณธรรมที่สูงไปกว่านั้น.
นัยที่ 3 : ครูบาอาจารย์มีหน้าที่สอนประชาชนให้เข้าใจสวรรค์อย่างถูกต้อง : จนไม่เป็นที่เกี่ยวเกาะ ; แต่เป็นการสนับสนุนเพื่อการบรรลุธรรมในชั้นที่สูงขึ้นไป.
11. อุปมา : สวรรค์โดยอุปมา : เปรียบเสมือน :
11.1 ดอกไม้หรือเหยื่อล่อแห่งมาร เพื่อนำสัตว์ไปตามความพอใจของตน.
11.2 ยาพิษที่เคลือบไว้ด้วยน้ำตาล หรือเบ็ดที่มีเหยื่อหุ้มไว้ จนเป็นที่ติดตังของคนประมาท.
11.3 ห้ามล้ออัตโนมัติ ที่ทำความเนิ่นช้าให้แก่รถ ที่จะวิ่งไปสู่จุดหมายปลายทาง.
11.4 สิ่งปฏิกูลแก่พระอริยเจ้า.
11.5 สิ่งที่เข้าไปแล้วออกยากเหมือนเซิงหนาม หรือทางวกวนแห่งเขาวงกต.
12. สมุทัย : สวรรค์โดยสมุทัย :
12.1 ตัณหาอุปทานฝ่ายกุศล.
12.2 สัมมาทิฏฐิฝ่ายสาสวะ. ส่วนสัมมาทิฏฐิฝ่ายอนาสวะ เป็นเครื่องปลดเปลื้องสัตว์ออกมาเสียจากอำนาจแห่งสวรรค์.
13. อัตถังคมะ : สวรรค์โดยอัตถังคมะ :
13.1 ความดับไปตามคราวแห่งเหตุปัจจัยของสวรรค์ เช่นเดียวกับสังขตธรรมทั้งหลาย.
13.2 ความเห็นโทษหรือความต่ำทรามแห่งสวรรค์ จนหมดตัณหาในสวรรค์.
13.3 การบรรลุมรรคผลที่สูงขึ้นไป ; จนไม่มีอัสสาทะเหลืออยู่สำหรับจะพอใจในสวรรค์.
14. อัสสาทะ : สวรรค์โดยอัสสาทะ :
14.1 อัสสาทะของาวรรค์มีอยู่เป็นชั้นๆ ตรงตามภาวะแห่งจิตใจของสัตว์ ซึ่งตั้งอยู่ในภพหรือภูมินั้นๆ.
14.2 อัสสาทะของสวรรค์ชั้นใด ย่อมเกี่ยวเกาะเฉพาะจิตของสัตว์ที่ตั้งอยู่ในสวรรค์ชั้นนั้น.
14.3 สวรรค์ของอันธพาล มีอัสสาทะที่จะเกี่ยวเกาะใจคนชันอันธพาล หรือมิจฉาทิฏฐิ แต่ธรรมดาไม่เรียกกันว่าสวรรค์; ทั้งที่มีความหมายอย่างเดียวกับสวรรค์.
15. อาทีนวะ : สวรรค์โดยอาทีนวะ :
15.1 มีเฉพาะแก่ผู้ที่มองเห็นโทษของสวรรค์ ; ไม่มีแก่ผู้ที่บ้าสวรรค์, เมาสวรรค์, หลงสวรรค์ หรือไม่เห็นโทษของสวรรค์.
15.2 อาทีนวะของสวรรค์มีชั่วเวลาที่อวิชชา ตัณหา อุปาทานของคนเขลาปิดบังอยู่ ; แถมหลอกให้เห็นว่ามิใช่เป็นอาทีนวะ.
16. นิสสรณะ : สวรรค์โดยนิสสรณะ :
นัยที่ 1 : นิสสรณะจากสวรรค์ไม่มี และไม่ต้องการจะมีสำหรับพาลปุถุชน; ต่อเมื่อเป็นกัลยาปุถุชนเห็นสิ่งที่ดีกว่าสูงกว่าสวรรค์ ; จึงจะต้องการนิสสรณะจากสวรรค์.
นัยที่ 2 : นิสสรณะจากสวรรค์ตั้งต้นจากสัมมาทิฏฐิที่เห็นโทษของสวรรค์ ; แล้วดำเนินในสัมมาทิฏฐิที่สูงขึ้นไป จนสมบูรณ์ด้วยอริยอัฏฐังคิกมรรค.
17. ทางปฏิบัติ : สวรรค์โดยทางปฏิบัติ :
นัยที่ 1 : เพื่อเข้าสู่สวรรค์ : คือ กุศลกรรมบถ 10 ประการ ; หรือการปฏิบัติตามปฏิจจสมุปบาทขั้นต้นๆ เพื่อการมีแห่งกุศลกรรมบถนั้นๆ
นัยที่ 2 : เพื่อออกจากความเกี่ยวเกาะของสวรรค์ : คือ การเห็นโทษของสวรรค์ ; และเห็นอานิสงส์ของการออกจากสวรรค์; แล้วดำเนินตามปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวารจนถึงที่สุด.
18. อานิสงส์ : สวรรค์โดยอานิสงส์ :
นัยที่ 1 : มีเฉพาะแก่สามัญสัตว์ที่ต้องเวียนว่ายในวัฏฏะ : ยังไม่ประสงค์โลกุตตระ.
นัยที่ 2 : อานิสงส์โดยอ้อม : คือ เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นจนติดอยู่ในสวรรค์; สวรรค์ก็กลายเป็นบันไดเพื่อการบรรลุพระนิพพาน.
นัยที่ 3 : อานิสงส์ต่ำสุด : คือ อานิสงส์ทางศีลธรรม; คือเป็นเครื่องยั่ว เครื่องชักจูงให้คนปฏิบัติเพื่อกุศล ละอกุศล.
19. หนทางถลำ: สวรรค์โดยหนทางถลำ : เข้าไปสู่ความยึดมั่นถือมั่นในสวรรค์ :
19.1 การเทศนาอบรมสั่งสอนตามขนบธรรมเนียมประเพณี หรือ วัฒนธรรมปรำปราแบบโบราณ ซึ่งหยุดอยู่เพียงสวรรค์ในฐานะเป็นสิ่งสูงสุด.
19.2 การคบหาสมาคมกันอยู่แต่ในหมู่บุคคลผู้มีความรู้สูงสุด เพียงเรื่องของสวรรค์.
20. สิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : สวรรค์โดยสิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : คือ สิ่งแวดล้อม, ปัจจัย,การชักจูงแนะนำสั่งสอนเพื่อความนิยมชมชอบ หรือเบื่อหน่ายในสวรรค์ แล้วแต่กรณี.
21. ภาษาคน - ภาษาธรรม: สวรรค์โดยภาษาคน - ภาษาธรรม :
21.1 ภาษาคน : เป็นบ้านเมืองอยู่บนฟ้า.
ภาษาธรรม : ภาวะเเห่งจิตที่ได้รับความสุขความพอใจอย่าหลงใหล.
21.2 ภาษาคน : อยู่บนฟ้า.
ภาษาธรรม : อยู่ที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ.
21.3 ภาษาคน : ถึงได้ต่อตายแล้ว
ภาษาธรรม : ถึงได้ที่นี่และเดี๋ยวนี้.
ธรรมโฆษณ์ที่แนะนำให้อ่าน
1. ธรรมบรรยายต่อหางสุนัข
2. ปรมัตถสภาสวธรรม
3. ฟ้าสางฯ ตอน 1,2