ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
1. พยัญชนะ : วิญญาณโดยพยัญชนะ : คือ รู้แจ้ง รู้อย่างวิเศษ รู้ต่างๆ และสิ่งที่ต้องรู้แจ้ง (หมายถึงนิพพาน).
2. อรรถะ : วิญญาณโดยอรรถะ : มีหลายความหมาย :
2.1 วิญญาณในฐานะที่เป็นวิญญาณธาตุ : เป็นสิ่งที่ควรพัฒนาให้ยิ่งขึ้นไป จนถึงกับสามารถสัมผัสอายตนะสูงสุด คือนิพพาน.
2.2 วิญญาณธาตุเป็นธาตุตามธรรมชาติ: สามารถปรุงหรือพัฒนาเป็นวิญญาณทางอายตนะได้.
2.3 วิญญาณ (ที่ถือกันว่าจุติ ปฏิสนธิได้นั้น) ; เป็นของลัทธิอื่นซึ่งไม่ใช่พุทธศาสนา.
2.4 วิญญาณหกตามอายตนะเป็นวิญญาณในพุทธศาสนา.
2.5 วิญญาณในความหมายพิเศษลึกซึ้งที่ต้องรู้แจ้ง หมายถึงนิพพาน.
3. ไวพจน์ : วิญญาณโดยไวพจน์ : คือ จิต, มโน.
4. องค์ประกอบ : วิญญาณโดยองค์ประกอบ : คือ อายตนะภายในกับอายตนะภายนอก หรือระบบประสาท และระบบสังขาร, ที่มีการปรุงแต่ง สิ่งเหล่านี้ จนทําให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า วิญญาณ.
5. ลักษณะ : วิญญาณโดยลักษณะ : มีลักษณะ :
5.1 เกิด, ดับ, แปรปรวนไปตามธรรมดาของสิ่งที่เรียกว่าสังขตธรรม.
5.2 หลอกลวงให้หลงเข้าใจไปว่าเป็นตัวตน ; ทั้งที่มันเป็นธาตุตามธรรมชาติและมิใช่ตัวตน.
6. อาการ : วิญญาณโดยอาการ : คือ มีอาการของเจ้าหน้าที่ที่ประจําอยู่ที่อายตนะ ภายในทั้ง 6.
7. ประเภท : วิญญาณโดยประเภท : กล่าวได้ว่ามีหลักใหญ่ๆ เป็น 2 ชนิด :
7.1 วิญญาณที่ยังเป็นธาตุตามธรรมชาติ.
7.2 วิญญาณที่ปรุงขึ้นมาโดยสังขาร สําหรับทําความรู้สึกทางอายตนะ ; และมีชื่อตามอายตนะนั้นๆ.
7.3 โดยปลีกย่อย : แบ่งประเภทของวิญญาณไปตามชื่อของอายตนะ 6 ; เช่น วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก เป็นต้น.
8. กฏเกณฑ์ : วิญญาณโดยกฏเกณฑ์ :
8.1 เมื่อใดมีการปรุงแต่งของสังขาร เมื่อนั้นจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณ ; เมื่อใดมีวิญญาณ เมื่อนั้นจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า นามรูป. นี้เป็นกฎเกณฑ์ตามหลักปฏิจจสมุปบาท.
8.2 วิญญาณเป็นสิ่งที่ต้องตั้งอาศัยอยู่ที่ระบบอายตนะ หรือระบบประสาท เมื่อเรียกด้วยภาษาชาวบ้านธรรมดา ; ปราศจากสิ่งที่เรียกว่าอายตนะเสียแล้ว; วิญญาณก็ไม่มีทางที่จะปรากฏ.
9. สัจจะ : วิญญาณโดยสัจจะ :
9.1 ถ้าไม่มีการปรากฏของวิญญาณ ย่อมหมายความว่า ; อายตนะไม่ได้ทําหน้าที่ หรือทําหน้าที่ไม่ได้.
9.2 เมื่อเหตุปัจจัยหรือส่วนประกอบของวิญญาณเป็นของไม่เที่ยงแล้ว; วิญญาณจะเป็นของเที่ยงได้อย่างไร.
9.3 วิญญาณแม้เป็นเพียงขันธ์หนึ่งในขันธ์ทั้ง 5 ; แต่ก็ทําหน้าที่หลายครั้งหลายหนมากกว่าขันธ์ใดๆ ในการเกิดขึ้น จนกว่าจะครบแห่งขันธ์ทั้ง 5.
10. หน้าที่ : วิญญาณโดยหน้าที่ :
10.1 เป็นปัจจัยอันสําคัญที่ทําให้มีสิ่งที่เรียกว่านามรูป.
10.2 มีหน้าที่รู้แจ้งต่ออารมณ์ 6.
10.3 มีหน้าที่เกี่ยวกับการรับอารมณ์, รู้สึกอารมณ์, เสวยอารมณ์, พิจารณาอารมณ์และทุกอย่างที่เกี่ยวกับอารมณ์ ; จนกว่าจะสําเร็จรูปเป็นเวทนา, สัญญา, สังขาร และกรรมที่เป็นกุศล หรืออกุศล ฯลฯ
11. อุปมา : วิญญาณโดยอุปมา : เปรียบเสมือน :
11.1 ลิง : กลับกลอก, ว่องไวไม่อยู่นิ่ง, ซัดเซพเนจรทั่วไปทั้งป่า.
11.2 แมงมุม : ที่ขึงใยไปทุกทิศทุกทางแล้วนอนรอเฝ้าอยู่ที่ตรงกลาง ; จนกว่าจะมีสัตว์มาติดใย ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ; แล้วออกไปจับกินเป็นอาหาร เสร็จแล้วก็กลับมานอนเฝ้าอยู่ที่เดิม.
12. สมุทัย : วิญญาณโดยสมุทัย :
12.1 วิญญาณย่อมมีเมื่อมีการกระทบกันทางอายตนะ.
12.2 ความก่อขึ้นพร้อมแห่งวิญญาณย่อมมี เพราะความก่อขึ้นพร้อมแห่งสังขาร (ตามหลักปฏิจจสมุปบาท).
13. อัตถังคมะ: วิญญาณโดยอัตถังคมะ :
13.1 ความดับตามคราวเพราะขาดเหตุปัจจัยตามธรรมดาของสังขารธรรมหรือสังขตธรรมทั้งหลาย.
13.2 เมื่อไม่มีการปรุง คือไม่มีการกระทบทางอายตนะ.
13.3 เมื่อวิญญาณเป็นเหตุให้เกิดนามรูปแล้ว เมื่อนามรูปดับ วิญญาณก็พลอยดับ.
13.4 เมื่อกล่าวเฉพาะกรณี : สามารถทําให้วิญญาณที่เกิดขึ้นแล้วระงับไป หรือไม่ทําหน้าที่ต่อไป ; ด้วยอํานาจของสติที่ประกอบอยู่ด้วยวิชชาอันสูงสุด.
14. อัสสาทะ : วิญญาณโดยอัสสาทะ :
14.1 อัสสาทะของวิญญาณยังไม่มี จนกว่าจะปรุงให้เป็นผัสสะและเวทนา.
14.2 สุขโสมนัสใดๆ ที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยวิญญาณใดเป็นเหตุ ; สุขโสมนัสนั้นเป็นอัสสาทะของวิญญาณนั้น.
15. อาทีนวะ : วิญญาณโดยอาทีนวะ :
15.1 ยังไม่มี : จนกว่าจะถูกปรุงไปตามลําดับ ให้เป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือว่าเป็นตัวตน.
15.2 โดยทั่วไปพอจะมองเห็นได้ว่า : วิญญาณนั่นแหละเป็นจุดตั้งต้นของปฏิจจสมุปบาทฝ่ายเกิดทุกข์.
15.3 วิญญาณเป็นขันธ์ๆ หนึ่งที่ไม่เที่ยง, เป็นทุกข์, เป็นอนัตตา เช่นเดียวกับขันธ์ทั้งหลาย.
16. นิสสรณะ : วิญญาณโดยนิสสรณะ :
16.1 ไม่ต้องมีสําหรับวิญญาณทางพุทธศาสนา : แต่จะมีในลัทธิอื่นที่ถือว่าวิญญาณเป็นตัวตน.
16.2 ในทางพุทธศาสนา : วิญญาณมีหน้าที่ที่จะต้องออกมาจากอิทธิพลของการปรุงแต่งของวิญญาณ.
16.3 การนําออกเสียได้ซึ่งฉันทราคะ หรือความยึดมั่นถือมั่นในวิญญาณนั้น ; นั่นคือนิสสรณะ.
17. ทางปฏิบัติ : วิญญาณโดยทางปฏิบัติ : เพื่อพ้นจากโทษทั้งปวงอันเกี่ยวกับวิญญาณ :
17.1 การเป็นอยู่ด้วยอริยมรรคมีองค์ 8.
17.2 ความมีสติในทุกกาละเทศะ หรือทุกกรณี.
18. อานิสงส์ : วิญญาณโดยอานิสงส์ : คือ เมื่อมีการปฏิบัติถูกต้องเกี่ยวกับวิญญาณย่อมมีอานิสงส์ให้ถึความสิ้นสุดแห่งความทุกข์.
19. หนทางถลํา : วิญญาณโดยหนทางถลํา : เข้าไปสู่การกระทําที่ผิดพลาดอันเกี่ยวกับวิญญาณ :
19.1 ความไม่รู้เท่าทันต่อพฤติของวิญญาณ จนความทุกข์เกิดขึ้นรอบด้าน.
19.2 มีการเป็นอยู่ด้วยความประมาท สะเพร่า เลินเล่ออยู่เป็นประจํา.
20. สิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : วิญญาณโดยสิ่งที่ต้องเกี่ยวข้อง : ในการควบคุมวิญญาณให้ปราศจากโทษ :
20.1 ความมีสติและปัญญาอันรวดเร็ว, ถูกต้อง, เพียงพอและเหมาะสมแก่กรณี.
20.2 ความมีสติที่สามารถควบคุมกระแสแห่งปฏิจจสมุปบาท.
21. ภาษาคน - ภาษาธรรม : วิญญาณโดยภาษาคน - ภาษาธรรมะ :
21.1 ภาษาคน : หมายถึงสิ่งที่มีการตายแล้วเกิดใหม่ไม่รู้จักจบ.
ภาษาธรรม : เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นทางอายตนะเมื่อมีอารมณ์มากระทบ ปราศจากความหมายแห่ง ความเป็นตัวตน.
21.2 ภาษาคน : (อย่างเด็กๆ) เป็นผีชนิดหนึ่ง.
ภาษาธรรม : เป็นธาตุตามธรรมชาติ.
ธรรมโฆษณ์ที่แนะนําให้อ่าน
1. ฟ้าสางๆ ตอน 1
2. โมกขธรรมประยุกต์
3. อริยสัจจากพระโอษฐ์