[Font : 15 ]
| |
ทรงทำนาที่มีอมตะเป็นผล |  

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงทราบอุปนนิสัยของพราหมณ์ผู้นี้แล้ว เสด็จไปบิณฑบาตที่นาของพราหมณ์ ขณะกำลังประชุมพวกพ้อง ทำมงคลแรกนากันอยู่อย่างเอิกเริก พราหมณ์เห็นพระองค์มายืนอยู่ใกล้ๆ จึงกล่าวบริภาษพระองค์ขึ้นก่อนดังต่อไปนี้:

"สมณะ! เราย่อมไถ ย่อมหว่าน, ครั้นไถแล้วหว่านแล้ว จึงได้บริโภค.สมณะ! ถึงแม้ท่านก็จงไถหว่านเข้าซิ ครั้นไถแล้วหว่านแล้ว จักได้บริโภค".

พราหมณ์! ถึงแม้เรา ก็ย่อมไถ ย่อมหว่าน, ครั้นไถแล้วหว่านแล้วจึงได้บริโภคเหมือนกัน.

"ก็พวกเราไม่เห็นแอก ไถ ผาล ปฎัก หรือโค ของพระโคดมเลย. แต่พระโคดมซิมากล่าวอยู่ดังนี้". ครั้นพราหมณ์กล่าวดังนี้แล้ว ได้กล่าวคำที่ผูกเป็นกาพย์สืบไป เป็นการโต้ตอบกัน :

"ท่านปฎิญญาตัวเองว่าเป็นชานา แต่เรามิได้เห็นไถของท่าน. ท่านผู้เป็นชาวนา ถูเราถามแล้ว จงบอกโดยวิธีที่เราจะรู้จักการไถหว่านของท่านเถิด".

"ศรัทธาเป็นพืช", พระองค์ตอบ, "ความเผาผลาญกิเลสเป็นน้ำฝน, ปัญญา ของเรา เป็นแอก และคันไถ, หิริเป็นงอนไถ, ใจเป็นเชือกชัก, สติเป็นผาลแลปฎัก, การคุมกาย คุมวาจา คุมท้องในเรื่องอาหาร เป็นรั้วนา, เราทำความสัจจ์ ให้เป็นผู้ถากหญ้าทิ้ง, ความยินดีในพระนิพพาน (ที่เราได้รู้รสแล้ว) เป็นกำหนดการเลิกทำนา, ความเพียรของเรา เป็นผู้ลากแอกไป ลากไปสู่แดนอันเป็นที่เกษมจากโยคะ, ไปอยู่ ๆ ไม่เวียนกลับ, สู่ที่ซึ่งบุคคลไปถึงแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก. การไถนา ที่ไถแล้วอย่างนี้ นานั้นย่อมมี อมตะ คือความไม่ตายเป็นผล, ครั้นไถนานี่เสร็จแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความทุกข์ ทั้งปวง".

- บาลี พราหมณสํยุตต์ สคา. สํ. 15/253/672. ตรัสแก่พราหมณ์กสิภารทวาช ที่นาตำบลพราหมณคาม ทักขิณาคิรีชนบท แคว้นมคธ.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง