ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
จุนทะ ! ฐานะนั้นมีอยู่แน่, คือฐานะที่ปริพพาชกผู้เป็นลัทธิอื่น ท. จะกล่าวอย่างนี้ว่า "พระสมณโคดม ย่อมบัญญัติญาณทัสสนะ ปรารภอดีตกาลนานไกลอย่างไม่มีขอบเขต, แต่ว่าหาได้บัญญัติญาณทัสสนะปรารภอนาคตกาลนานไกล อย่างไม่มีขอบเขตเช่นนั้นไม่ : นั่นมันอะไรกัน? นั่นมันอย่างไรกัน?" ดังนี้.
จุนทะ ! ปริพพาชกผุ้เป็นลัทธิอื่น ท. เหล่านั้น สำคัญสิ่งที่ควรบัญญัติว่าเป็นอญาณทัสสะนานาอย่าง ให้เป็นญาณทัสสะนานาอย่าไปเสีย เหมือนอย่างที่พวกคนพาลคนเขลาเขากระทำกันนั่นเอง.
จุนทะ ! สตานุสาริญาณ (ญาณอันแล่นไปตามความระลึก) ปรารภอดีตกาลนานไกล ย่อมมีแก่ตถาคต เท่าที่ตถาคตจะระลึก ตามที่ต้องการ. สำหรับญาณปรารภอนาคตกาลนานไกล อันเป็นญาณที่เกิดจากการตรัสรู้ (ที่โคนต้นโพธิ์) ย่อมเกิดแก่ตถาคตว่า "ชาตินี้ เป็นชาติสุดท้าย, บัดนี้ ภพใหม่มิได้มีอีกต่อไป". ดังนี้.
หมายเหตุ : ญาณตามความหมายในพุทธศาสนามีขอบเขตจำกัดเฉพาะเรื่องเฉพาะอย่าง ทั้งที่ปรารภอดีตและอนาคต, หาใช่ไม่มีขอบเขตจำกัด ดังที่เดียรถีย์กล่าวไม่. ขอให้สังเกตใจความแห่งข้อความข้างบนนี้ให้ดีๆ ก็พอจะเข้าใจได้เอง.
-ผู้รวบรวม.
- บาลี ปาสาทิกสูตร ปา. ที. 11/147/118. ตรัสแก่จุนทสมณุทเทส ที่อัมพวันปราสาทของเจ้าศากยะพวกเวธัญญา.