ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุ ท.! พญาสัตว์ชื่อ สีหะ ออกจากถ้ำที่อาศัยในเวลาเย็น เหยียดยืดกาย แล้วเหลียวดูทิศทั้ง 4 โดยรอบ บันลือสีหนา 3 ครั้งแล้ว ก็เที่ยวไปเพื่อหาอาหาร. ราชสีห์นั้น เมื่อตะครุบช้าง ก็ตะครุบด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งไม่หละหลวม. เมื่อตะครุบควายป่า ก็ตะครุบด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่หละหลวม. เมื่อตะครุบวัว ก็ตะครุบด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งไม่หละหลวม. เมื่อตะครุบเสือดาว ก็ตะครุบด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งไม่หละหลวม. แม้ที่สุดแต่เมื่อตะครุบสัตว์เล็กๆ เช่นกระต่ายและแมวก็ตะครุบด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่หละหลวม. เพราะเหตุไรเล่า? เพราะราชสีห์นั้นคิดว่า เหลี่ยมคูของราชสีห์อย่าได้เสื่อมเสียไปเสียดาย ดังนี้. ภิกษุ ท.!ก็ คำว่า ราชสีห์ๆ นี้เป็นคำแทนชื่อตถาคตผู้อรหันต์ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง ด้วยเหมือนกัน การแสดงธรรมแก่บริษัทนั่นแหละ คือ การบันลือสีหนาทของตถาคต.
ภิกษุ ท.! เมื่อตถาคตแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลาย ก็แสดงด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่หละหลวม. เมื่อแสดงแก่ภิกษุณีทั้งหลาย ก็แสดงด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่หละหลวม. เมื่อแสดงแก่อุบาสกทั้งหลาย ก็แสดงด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่หละหลวม. เมื่อแสดงแก่อุบาสิกาทั้งหลาย ก็แสดงด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ไม่หละหลวม. แม้ที่สุดแต่เมื่อแสดงแก่ปุถุชนชั้นต่ำทั่วไปเช่นแก่คนขอทานหรือพวกพรานทั้งหลาย ก็ย่อมแสดงด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่งไม่หละหลวมเลย. เพราะเหตุไรเล่า? ภิกษุ ท.! เพราะเหตุว่า ตถาคตเป็นผู้หนักในธรรม เป็นผู้เคารพต่อธรรม ดังนี้.
- บาลี ปญฺจก. อํ. 22/137/99. ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.