ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุ ท.! เรายังรู้สึกได้อยู่ซึ่งธรรม 2 อย่าง คือ ความไม่สันโดษในกุศลธรรม ท. และความเป็นผู้ไม่ถอยกลับในความเพียร. ภิกษุ ท.! เราย่อมตั้งไว้ซึ่งความไม่ถอยกลับ ว่า "จงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น กระดูกเท่านั้น. เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือดแห้งไป. ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่นของบุรุษ, ยังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี." ดังนี้. ภิกษุ ท.! การตรัสรู้เป็นสิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วยความไม่ประมาท อนุตตรโยคักเขมธรรม ก็เป็นสิ่งที่เราถึงทับแล้วด้วย ความไม่ประมาท.
ภิกษุ ท.! ถ้าแม้พวกเธอ พึงตั้งไว้ซึ่งความไม่ถอยกลับ ว่า "จงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็นกระดูกเท่านั้น, เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือดแห้งไป.ประโยชน์อันใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลังด้วยควมเพียร ด้วยความบากบั่นของบุรุษ, ยังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี. ดังนี้แล้วไซร้; ภิกษุ ท.! พวกเธอก็จัก กระทำให้แจ้งด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์ อันไม่มีอะไรอื่นยิ่งกว่า อันเป็นประโยชน์ที่ต้องการของกุลบุตรผู้ออกบวชจากเรือนเป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ, ได้ต่อกาลไม่นานในทิฏฐธรรมเข้าถึงแล้วแลอยู่ เป็นแน่นอน.
ภิกษุ ท.! เพราะเหตุนั้น ในกรณีนี้ เธอ ท. พึงทำความสำเหนียกอย่างนี้ว่า "เราจักตั้งไว้ซึ่งความไม่ถอยกลับ ว่า "จงเหลืออยู่แต่หนัง เอ็น กระดูกเท่านั้น, เนื้อและเลือดในสรีระจงเหือดแห้งไป ประโยชน์ใด อันบุคคลจะบรรลุได้ด้วยกำลัง ด้วยความเพียร ด้วยความบากบั่นของบุรุษ, ยังไม่บรรลุประโยชน์นั้นแล้ว จักหยุดความเพียรเสีย เป็นไม่มี" ดังนี้. ภิกษุ ท.! เธอ ท. พึงทำความสำเหนียกอย่างนี้ เถิด.
- บาลี ทุก. อํ. 20/64/251. ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.