[Font : 15 ]
| |
การมาเฝ้าของตายนเทพบุตร |  

ภิกษุ ท.! เมื่อคืนนี้ ราตรีล่วงไปมากแล้ว เทพบุตรชื่อตายนะผู้เคยเป็นเจ้าลัทธิเดียรถีย์ในกาลก่อน, มีวรรณะยิ่ง ส่องเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้ามาหาเราถึงที่อยู่ ไหว้เราแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรได้กล่าวคำผูกเป็นกาพย์เหล่านี้ในที่ใกล้เรา ว่า:-

"จงตัดกระแส, จงบากบั่นไปสู่คุณเบื้องสูง, จงบรรเทากามเสียเถิดนะ พราหมณ์ ! เพราะมุนีที่ไม่ละกาม ย่อมถึงความเป็นคนลวงโลก.

ถ้าจะกระทำก็จงทำจริง, จงบากบั่นสิ่งนั้นให้หนักแน่น, เพราะว่า บรรพชาที่รับถือไว้หลวมๆ ย่อมโปรยโทษ คือ ธุลีอย่างหนัก.

ไม่ทำความชั่ว ดีกว่า, ความชั่วย่อมเผาลนในภายหลัง.ทำความดี ดีกว่า - ความดีชนิดที่ทำแล้วไม่ตามเผาลม.

หญ้ากุสะที่จับไม่ดีแล้วดึง ย่อมบาดมือผู้จับ ฉันใด; ความเป็นสมณะ ที่บุคคลใดลูบคลำอย่างเลวทราม ย่อมคร่าผู้นั้นไปนรก.

การงานอันใดที่ย่อหย่อน, วัตรอันใดที่เศร้าหมอง, พรหมจรรย์ที่ระลึกขึ้นมาแล้วรังเกียจตัวเองได้ นั่นไม่เป็นสิ่งที่มีผลมากได้เลย".

ภิกษุ ท.! ตายนเทวบุตร, ครั้นกล่าวดังนี้แล้ว ก็อภิวาทเรา กระทำประทักษิณ หายไปแล้ว. ภิกษุ ท.! พวกเธอทั้งหลายจงถือเอา จงเล่าเรียนจงทรงไว้ซึ่ง ตายนคาถา05.33. ภิกษุ ท.! ตายนคาถาเป็น ของประกอบด้วยประโยชน์ เป็น เงื่อนต้นของพรหมจรรย์.

- บาลี เทวปุตฺตสํยุตฺต สคา. สํ. 15/68/240. ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายที่เชตวัน ในวันรุ่งขึ้นจากคืนที่เทพบุตรมาเฝ้า.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง