[Font : 15 ]
| |
การแสดงปฐมเทศนา |  

ราชกุมาร ! ลำดับนั้น เราจาริกไปโดยลำดับ ไปสู่เมืองพาราณสีถึงที่อยู่แห่งภิกษุปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน แล้ว. ภิกษุปัญจวัคคีย์เห็นเรามาแต่ไกล ได้ตั้งกติกาแก่กันและกันว่า "ผู้มีอายุ! พระสมณโคดมนี้กำลังมาอยู่, เธอเป็นผู้มักมาก สลัดความเพียร เวียนมาเพื่อความเป็นคนต่ำเสียแล้ว. เช่นนั้นเราอย่าไหว้, อย่าลุกรับ, อย่าพึงรับบาตร จีวรของเธอ เป็นอันขาด04.33 . แต่จักตั้งอาสนะไว้ ถ้าเธอปรารถนา จักนั่งได้" ดังนี้.

ราชกุมาร! เราเข้าไปใกล้ภิกษุปัญจวัคคีย์ด้วยอาการอย่างใด, เธอไม่อาจถือตามกติกาของตนได้ด้วยอาการอย่างนั้น, บางพวกลุกรับและรับบาตรจีวรแล้ว, บางพวกปูอาสนะแล้ว, บางพวกตั้งน้ำล้างเท้าแล้ว แต่เธอร้องเรียกเราโดยชื่อ (ว่าโคดม) ด้วย และโดยคำว่า ท่านผู้มีอายุ ด้วย. ครั้นเธอกล่าวอย่างนั้นเราได้กล่าวคำนี้กะภิกษุปัญจวัคคีย์นั้นว่า "ภิกษุ ท.! เธออย่างเรียกร้องเราโดยชื่อและโดยคำว่า "ผู้มีอายุ!" ภิกษุ ท.! เราเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า, เธอจงเงี่ยโสตลง เราจักสอนอมตธรรมที่เราได้บรรลุแล้ว, เราจักแสดงธรรม, เมื่อเธอปฎิบัติอยู่ตามที่เราสอน, ในไม่นานเทียวจักกระทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์อันยอดเยี่ยม อันเป็นยอดแห่งพรหมจรรย์ ได้ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในทิฏฐธรรมนี้เข้าถึงแล้วแลอยู่, อันเป็นประโยชน์ที่ปรารถนาของกุลบุตรผู้ออกจากเรือน บวชเป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ" ดังนี้.

ราชกุมาร ! ครั้นเรากล่าวดังนี้แล้ว, ภิกษุปัญจวัคคีย์กล่าวคำนี้กะเราว่า "ผู้มีอายุ โคดม! แม้ด้วยอิริยา ปฏิปทา และทุกรกิริยานั้น ท่านยังไม่อาจบรรลุอุตตริมนุสสธัมม์อลมริยญาณทัสสนวิเศษได้เลย ก็ในบัดนี้ ท่านเป็นคนมักมาก สลัดความเพียรเวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมากแล้ว ทำไมจะบรรลุอุตตริมนุสสธัมม์ อลมริยญาณทัสสนวิเศษได้เล่า?"

"ภิกษุ ท.! ตถาคตไม่ได้เป็นคนมักมาก สลัดความเพียร เวียนมาเพื่อความเป็นคนมักมากดอก, ภิกษุ ท.! ตถาคตเป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง. ภิกษุ ท.! พวกเธอจงเงี่ยโสตลง เราจะสอนอมตธรรมที่เราได้บรรลุแล้ว เราจักแสดงธรรม. เมื่อเธอปฏิบัติอยู่ตามที่เราสอน,ในไม่นานเทียว, จักกระทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์อันยอดเยี่ยมอันเป็นยอดแห่งพรหมจรรย์ได้ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่, อันเป็นประโยชน์ที่ปรารถนาของเหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวช เป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ".

ราชกุมาร ! ภิกษุปัญจวัคคีย์ ได้กล่าวคำนี้ กะเราอีก แม้ครั้งที่ 2 (อย่างเดียวกับครั้งแรก)

ราชกุมาร ! เราก็ได้กล่าวคำนี้กะภิกษุปัญจวัคคีย์แม้ครั้งที่ 2 (ว่าอย่างเดียวกับครั้งแรก).

ราชกุมาร ! ภิกษุปัญจวัคคีย์ ได้กล่าวคำนี้ กะเราอีก แม้ครั้งที่ 3 (อย่างเดียวกับครั้งแรก)

ราชกุมาร! ครั้นภิกษุปัญจวัคคีย์กล่าวอย่างนี้แล้ว, เราได้กล่าวคำนี้กะพวกเธอว่า "ภิกษุ ท.! เธอจำได้หรือ? คำอย่างนี้นี่เราได้เคยกล่าวกะเธอ ท.ในกาลก่อนแต่นี้บ้างหรือ? เธอตอบว่า "หาไม่ท่านผู้เจริญ!04.34 เรากล่าวอีกว่า "ภิกษุ ท.! คถาคตเป็นพระอรหันต์ตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง. พวกเธอจงเงี่ยโสตลงเราจะสอน อมตธรรมที่เราได้บรรลุแล้ว, เราจักแสดงธรรม, เมื่อเธอปฏิบัติอยู่ตามที่เราสอน, ในไม่นานเทียว จักกระทำให้แจ้ง ซึ่งประโยชน์อันยอดเยี่ยมอันเป็นยอดแห่งพรหมจรรย์ได้ ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่, อันเป็นประโยชน์ที่ปรารถนาของเหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือน บวชเป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ" ดังนี้.

ราชกุมาร ! เราได้สามารถ เพื่อให้ ภิกษุปัญจวัคคีย์ เชื่อแล้วแล.ราชกุมาร ! เรากล่าวสอนภิกษุ 2 รูปอยู่. ภิกษุ 3 รูปเที่ยวบิณฑบาต เรา 6 คนด้วยกันเลี้ยงชีวิตให้เป็นไป ด้วยอาหารที่ภิกษุ 3 รูปนำมา. บางคราวเรากล่าวสอนภิกษุ 3 รูปอยู่ ภิกษุ 2 รูป เที่ยวบิณฑบาต เราหกคนเลี้ยงชีวิตให้เป็นไปด้วยอาหารที่ภิกษุ 2 รูปนำมา.04.35

ราชกุมาร ! ครั้งนั้น, เมื่อเรากล่าวสอน พร่ำสอนภิกษุปัญจวัคคีย์อยู่ด้วยอาการอย่างนี้04.35 เธอกระทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์อันยอดเยี่ยม อันเป็นยอดแห่งพรหมจรรย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่อันเป็นประโยชน์ที่ปรารถนาของเหล่ากุลบุตรผู้ออกจากเรือนบวช เป็นผู้ไม่มีเรือนโดยชอบ ได้แล้ว.

(ข้อความในบาลี ปาสราสิสูตร มู.ม. 12/332/326, มีแปลกออกไปบ้างเล็กน้อยในตอนนี้ ดังนี้ :-)

ภิกษุ ท.! ครั้งนั้น เมื่อเรากล่าวสอน พร่ำสอนภิกษุปัญจวัคคีย์อยู่04.35 ด้วยอาการอย่างนี้ เธอนั้น ทั้งที่เป็นผู้มีการเกิดเป็นธรรมดาอยู่ด้วยตนก็รู้แจ้งแล้ว ซึ่งโทษอันต่ำทรามในความเป็นผู้มีการเกิดเป็นธรรมดา. เธอแสวงหาอยู่ ซึ่งนิพพานอันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าเป็น ธรรมที่ไม่มีการเกิด, ก็ได้เข้าถึงแล้วซึ่งนิพพาน อันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เป็นธรรมไม่มีการเกิด.

เธอนั้น ทั้งที่เป็นผู้มีความแก่เป็นธรรมดาอยู่ด้วยตน ก็รู้แจ้งชัดแล้วซึ่งโทษอันต่ำทรามในความเป็นผู้มีความชราเป็นธรรมดา. เธอแสวงหาอยู่ซึ่งนิพพานอันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เป็นธรรมที่ไม่มีความชรา, ก็ได้เข้าถึงแล้วซึ่งนิพพาน อันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เป็นธรรมไม่มีความชรา.

เธอนั้น ทั้งที่เป็นผู้มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดาอยู่ด้วยตน ก็รู้แจ้งชัดแล้วซึ่งโทษอันต่ำทรามในความเป็นผู้มีความเจ็บไข้เป็นธรรมดา. เธอแสวงหาอยู่ซี่งนิพพาน อันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัดไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เป็นธรรมไม่มีความเจ็บไข้, ก็ได้เข้าถึงแล้วซึ่งนิพพาน อันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เป็นธรรมไม่มีความเจ็บไข้.

เธอนั้น ทั้งที่เป็นผู้มีความตายเป็นธรรมดาอยู่ด้วยตน ก็รู้แจ้งชัดแล้วซึ่งโทาอันต่ำทรามในความเป็นผู้มีความตายเป็นธรรมดา. เธอแสวงหาอยู่ซึ่งนิพพาน อันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เป็นธรรมที่ไม่ตาย, ก็ได้เข้าถึงแล้วซึ่งนิพพาน อันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เป็นธรรมไม่ตาย.

เธอนั้น ทั้งที่เป็นผู้มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดาอยู่ด้วยตน ก็รู้แจ้งชัดแล้วซึ่งโทษอันต่ำทราม ในความเป็นผู้มีความเศร้าหมองเป็นธรรมดา. เธอแสวงหาอยู่ซึ่งนิพพานอันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่าเป็น ธรรมที่ไม่มีความเศร้าหมอง, ก็ได้เข้าถึงแล้วซึ่งนิพพาน อันเป็นธรรมที่ปลอดภัยจากเครื่องผูกรัด ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เป็นธรรมไม่เศร้าหมอง.

ญาณ และ ทัสสนะ ได้เกิดขึ้นแล้วแก่เธอเหล่านั้นว่า ความหลุดพ้นของเราไม่กลับกำเริบ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ภพใหม่ไม่มีอีกต่อไป ดังนี้.

- บาลี ม.ม. 13/467/514. ตรัสแก่โพธิราชกุมาร. ปาสราสิสูตรก็มี.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง