[Font : 15 ]
| |
ทรงเห็นลู่ทางที่จะช่วยเหลือปวงสัตว์ |  

ภิกษุ ท.! ครั้งหนึ่ง ที่ตำบลอุรุเวลา ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา,ที่ต้นไทรเป็นที่พักร้อนของเด็กเลี้ยงแพะ เมื่อเราแรกตรัสรู้ได้ใหม่ๆ, ความปริวิตกแห่งใจได้เกิดขึ้นแก่เรา ขณะเข้าสู่ที่พักกำบังหลีกเร้นอยู่, ว่า "นี่เป็นหนทางเครื่องไปทางเดียว เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของสัตว์ทั้งหลาย, เพื่อก้าวล่วงเสียซึ่งความโศกและปริเทวะ เพื่อความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง ทางนี้ คือ สติปัฏฐาน 4. 4 เหล่าไหนเล่า?คือ ภิกษุเป็นผู้มีธรรมดาตามเห็นกายในกาย, เห็นเวทนาในเวทนา ท., เห็นจิตในจิต, เห็นธรรมในธรรม ท. อยู่, เป็นผู้มีเพียรเผาบาป มีสติสัมปชัญญะ นำอภิชฌาและโทมนัสในโลก ออกได้ : นี้แหละทางทางเดียว" ดังนี้.

ภิกษุ ท.! ลำดับนั้น สหัมบดีพรหมรู้ปริวิตกในใจของเราจึงอันตรธานจากพรหมโลก มาปรากฎอยู่เฉพาะหน้าเรา รวดเร็วเท่าเวลาที่บุรุษแข็งแรงเหยีดแขนออกแล้วงอเข้า เท่านั้น. ครั้งนั้นสหัมบดีพรหมทำผ้าห่มเฉวียงบ่าน้อมอัญชลีเข้ามาหาเรา แล้วกล่าวกะเราว่า "อย่างนั้นแล พระผู้มีพระภาค ! อย่างนั้นแล พระสุคต! ฯลฯ นั่นเป็นทางทางเดียว เพื่อความบริสุทธิ์หมดจดของสัตว์ทั้งหลาย, เพื่อก้าวล่วงเสียได้ซึ่งความโศกและปริเทวะ ฯลฯ เพื่อทำนิพพานให้แจ้ง", แล้วและได้กล่าวคำ (อันผูกเป็นกาพย์) ว่า:-

"พระสุคต ผู้มีธรรมดาเห็นที่สุดคือความสิ้นไปแห่งชาติ ผู้มีพระทัยอนุเคราะห์สัตว์ด้วยความเกื้อกูล ย่อมทรงทราบทางเอก ซึ่งเหล่าพระอรหันต์ได้อาศัยข้ามแล้วในกาลก่อน และกำลังข้ามอยู่และจักข้าม ซึ่งโอฆะได้", ดังนี้.

- บาลี มหาวาร. สํ. 19/246-248/820-824. ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย.


เกี่ยวกับธรรมโฆษณ์ออนไลน์ (Disclaimer)
แม้ระบบ "ธรรมโฆษณ์ออนไลน์" พยายามปรับปรุงข้อมูลให้ถูกต้องมากที่สุด ผู้ศึกษาก็พึงตรวจสอบกับตัวเล่มหนังสือต้นฉบับ ที่มีการพิมพ์ครั้งล่าสุด ก่อนนำข้อมูลไปใช้ในการอ้างอิง"

  |     |   แจ้งข้อผิดพลาด / แนะนำ
หนังสือที่เกี่ยวข้อง