ไปยังหน้า : |
[Font : 15 ]
|
| | |
ภิกษุทั้งหลาย! กายของตถาคตนี้ มีตัณหาอันเป็นเครื่องนำไปหาภพถูกตถาคตถอนขึ้น เสียได้แล้ว, ดำรงอยู่. กายนี้ยังดำรงอยู่เพียงใด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ยังคงได้เห็นตถาคตนั้น อยู่เพียงนั้นเพราะการทำลายแห่งกาย, หลังจากการควบคุมกันอยู่ได้ของชีวิต เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคตนั้นเลย.
ภิกษุทั้งหลาย! เมื่อขั้วพวงมะม่วงขาดแล้ว มะม่วงทั้งหลายเหล่าใดที่เนื่องขั้วเดียวกัน มะม่วงเหล่านั้นทั้งหมด ย่อมเป็นของตกตามไปด้วยกัน นี้ฉันใด,ภิกษุทั้งหลาย! กายของตถาคตก็ฉันนั้น กายของตถาคตมีตัณหาเครื่องนำไปหาภพถูกตถาคตถอนขึ้นเสียได้แล้ว, ดำรงอยู่. กายนี้ดำรงอยู่เพียงใด เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ยังคงเห็นตถาคตอยู่ชั่วเวลาเท่านั้น. เพราะการทำลายแห่งกาย, หลังจากการควบคุมกันอยู่ได้ของชีวิต เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จักไม่เห็นตถาคตเลย.
(อธิบายว่าเมื่อเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธะแล้ว กายสิ้นเชื้อที่จะนำไปหาภพใหม่ คือการเกิดอีก คงตั้งอยู่ชั่วเวลาที่ยังไม่แตกดับ. ครั้นแตกดับแล้ว ถึงความเป็นของว่าง ไม่มีอะไรเหลือ. ส่วนผสมของกายสำหรับภพต่อไป รวมขั้วอยู่ที่ตัณหาที่เป็นเครื่องนำไปหาภพ, เพราะฉะนั้นจึงตรัสไว้ ดังนี้).
- บาลี พรหมชาลสูตร สี. ที. 9/59/90. ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายที่อุทยานอัมพลัฎฐิกา ระหว่างเมืองราชคฤห์กับเมืองนาลันทา.